แอปพลิเคชันมีกี่ประเภท หรือ Application นั้น เป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถปฏิบัติงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ บริษัท RED CODE DEVELOPMENT เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันมีกี่ประเภท สำหรับใช้งานในองค์กร แอปพลิเคชันมีกี่ประเภท โดยมีอยู่ 2 ประเภทหลัก คือ แอปพลิเคชันระบบ และแอปพลิเคชันประยุกต์ และยังสามารถแบ่งตามการใช้งานได้อีก 3 หมวดหมู่ คือ Mobile Application, Web Application และ Desktop Application
แอปพลิเคชันมีกี่ประเภท
แอปพลิเคชันมีกี่ประเภทหลักอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ System Application (แอปพลิเคชันระบบ) และ Application Software (แอปพลิเคชันประยุกต์) แต่ละประเภทของแอปพลิเคชันมีความแตกต่างกันตามลักษณะการทำงานและวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ซึ่งการเลือกพัฒนาแอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรแต่ละประเภทของแอปพลิเคชันขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กรนั้น ๆ
System Application (แอปพลิเคชันระบบ)
System Application หรือแอปพลิเคชันระบบ คือ ระบบปฏิบัติการที่เป็นตัวกลางรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันประยุกต์หรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น Android, iOS, Windows เป็นต้น แอปพลิเคชันระบบเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน มี 2 ประเภทหลักนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Application Software (แอปพลิเคชันประยุกต์)
Application Software หรือแอปพลิเคชันประยุกต์ คือ ประเภทของแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้ใช้งานตามจุดประสงค์เฉพาะด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น Facebook, Line, Google Maps, Lazada ฯลฯ แอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรก็จัดอยู่ในประเภทนี้ โดยมักออกแบบเพื่อใช้งานภายในหรือเชื่อมต่อการทำงานขององค์กรโดยเฉพาะ
แอปพลิเคชัน แบ่งได้ 3 หมวดหมู่ ดังนี้
นอกจากแอปพลิเคชันมีกี่ประเภทที่แบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ แล้ว ยังแบ่งตามอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อีก 3 หมวดหมู่ คือ Mobile Application (แอปพลิเคชันบนมือถือ), Web Application (แอปพลิเคชันบนเว็บ) และ Desktop Application (แอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป) แต่ละหมวดหมู่มีลักษณะการพัฒนาและรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน ทาง RED CODE DEVELOPMENT มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแอปพลิเคชันมีกี่ประเภทครอบคลุมทั้ง 3 หมวดหมู่นี้
Mobile Application
Mobile Application หรือ ประเภทของแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เป็นแอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรที่พัฒนาสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 2 รูปแบบ ดังนี้
- Native App – พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานบนระบบปฏิบัติการเฉพาะ เช่น iOS หรือ Android ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและเข้าถึงฟีเจอร์ของอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่
- Hybrid App – พัฒนาด้วยเทคโนโลยีเว็บ แต่สามารถใช้งานคล้าย Native App ได้ โดยปรับเป็นแอปพลิเคชันมีกี่ประเภทที่ใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ติดตั้งง่าย แต่อาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่างของอุปกรณ์
Web Application
Web Application หรือ ประเภทของแอปพลิเคชันที่ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งบนอุปกรณ์ แต่ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ตัวอย่างเช่น Google Docs, Microsoft Office 365 เหมาะสำหรับแอปพลิเคชัน มี 2 ประเภทที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์
Desktop Application
Desktop Application คือ ประเภทของแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งต้องติดตั้งแอปพลิเคชันลงบนเครื่องก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ ตัวอย่างเช่น Microsoft Word, Adobe Photoshop, Skype เป็นต้น เหมาะสำหรับแอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรที่มีการใช้งานเฉพาะทางบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
แอปพลิเคชัน มีประโยชน์อย่างไร?
แอปพลิเคชันมีกี่ประเภทต่างก็มีประโยชน์มากมายที่ช่วยให้การทำงาน การดำเนินชีวิตประจำวัน และการบริหารจัดการต่าง ๆ สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทของแอปพลิเคชันเพื่อความบันเทิง ติดต่อสื่อสาร จัดการข้อมูล หรือทำธุรกรรมทางการเงิน
โดยเฉพาะแอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรนั้นยิ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ เนื่องจากช่วยในการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนด้านเอกสาร เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการประสานงาน นอกจากนี้ ยังเป็นช่องทางการให้บริการลูกค้าที่เข้าถึงได้อย่างใกล้ชิด ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล สร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
ดังนั้น การเลือกพัฒนาแอปพลิเคชันมีกี่ประเภท จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและก้าวสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง
3 ธุรกิจที่ควรมีแอปพลิเคชัน
ในยุคที่ Application กลายเป็นช่องทางหลักในการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งมีอยู่ 3 ธุรกิจหลักที่ควรมีแอปพลิเคชัน คือ ดังนี้
- ธุรกิจประเภทขายสินค้า และให้บริการ – แอปพลิเคชัน มีอะไรบ้างที่เหมาะกับธุรกิจนี้ เช่น E-commerce App ที่ช่วยให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว จากทุกที่ทุกเวลา หรือ Customer Service App ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้า
- ธุรกิจประเภทจองบริการ – Mobile Application คือตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่ต้องการระบบจองบริการที่ใช้งานง่ายผ่านแอป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้วย
- ธุรกิจประเภทให้ข้อมูลเพื่อการโฆษณา – Application ที่ให้ข้อมูล ข่าวสาร คอนเทนต์ต่าง ๆ ช่วยสร้างการรับรู้ และดึงดูดผู้ใช้ให้เข้ามาใช้แอปบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการลงโฆษณา หรือแนะนำสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องได้
หากสนใจแอปพลิเคชัน สามารถใช้บริการ RED CODE ได้แล้ววันนี้!
RED CODE DEVELOPMENT เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาแอปพลิเคชันมีกี่ประเภทที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Mobile Application, Web Application หรือ Desktop Application เราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบแอปพลิเคชัน สำหรับองค์กรของคุณอย่างครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจอย่างแท้จริง
สรุป
แอปพลิเคชันมีกี่ประเภท เป็นคำถามสำคัญที่องค์กรควรทำความเข้าใจก่อนเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยหลัก ๆ แล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แอปพลิเคชันระบบ และแอปพลิเคชันประยุกต์ รวมถึงสามารถแบ่งตามการใช้งานได้อีก 3 หมวดหมู่ คือ Mobile, Web และ Desktop ซึ่งแอปพลิเคชันแต่ละประเภทจะมีการพัฒนาและใช้ประโยชน์ต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตาม การมีแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับองค์กร ผ่านบริการที่ตอบโจทย์กับลูกค้าได้ตรงใจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันมืออาชีพ สามารถใช้บริการ RED CODE DEVELOPMENT ได้แล้ววันนี้ เราพร้อมเป็นหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีเพื่อความสำเร็จของธุรกิจคุณอย่างยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย
แอปพลิเคชันมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
แอปพลิเคชันมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แอปพลิเคชันระบบ (System Application) และแอปพลิเคชันประยุกต์ (Application Software) และสามารถแบ่งได้อีก 3 หมวดหมู่ตามการใช้งาน คือ Mobile Application, Web Application และ Desktop Application
Application (แอปพลิเคชัน) หมายถึงอะไร?
Application หรือแอปพลิเคชัน หมายถึง ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถปฏิบัติงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้งานบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต
App ประเภท 3+ คืออะไร?
App ประเภท 3+ คือ แอปพลิเคชันที่ได้รับการจัดเรตติ้งเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ใช้งานอายุ 3 ปีขึ้นไป ปราศจากเนื้อหารุนแรง เรื่องเพศ หรือสิ่งผิดกฎหมาย โดยทั่วไปมักเป็นแอปประเภทเกม แอปพลิเคชันสำหรับเด็ก ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลและควบคุมการใช้งานของบุตรหลานอย่างเหมาะสม
Web Application มีกี่แบบ อะไรบ้าง?
Web Application สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามรูปแบบการทำงาน เช่น
- Static Web Application – แสดงผลแบบคงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล
- Dynamic Web Application – แสดงผลตามข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ข่าวสาร โซเชียลมีเดีย
- E-commerce Web Application – ระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์
- Portal Web Application – รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งมาแสดงบนเว็บเดียว
- Content Management System (CMS) – เว็บสำหรับสร้างและจัดการเนื้อหา เช่น WordPress




