Sitemap คืออะไร? เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์คุณติดอันดับ SEO

Sitemap

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางเว็บไซต์ถึงติดอันดับต้น ๆ บน Google อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางเว็บกลับหายไปในหน้าที่ 10 ที่ไม่มีใครคลิกดู? คำตอบส่วนหนึ่งอาจอยู่ที่ “Sitemap” หรือ “แผนผังเว็บไซต์” เครื่องมือลับที่คนทำเว็บไซต์และนัก SEO มืออาชีพให้ความสำคัญ แต่มือใหม่มักมองข้าม

Sitemap คืออะไร? ทำไมแผนผังเว็บไซต์ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Sitemap คือ แผนผังเว็บไซต์ที่รวบรวมรายการทุกหน้าของเว็บไซต์คุณเอาไว้ในที่เดียว ถ้าเปรียบเว็บไซต์เป็นหนังสือเล่มหนึ่ง Sitemap Website ก็คือ หน้าสารบัญที่ช่วยให้ผู้อ่าน (ในที่นี้คือ Search Engine Bot หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์) สามารถเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ทันที ว่ามีหน้าเว็บเพจอะไรบ้าง และสามารถเข้าถึงแต่ละหน้าได้อย่างไร หากต้องการศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นมาของ Sitemap คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก Wikipedia

การสร้าง Sitemap ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ Googlebot (หุ่นยนต์ที่ Google ส่งมาสำรวจเว็บไซต์) เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google ได้ดีขึ้น Google Sitemap SEO จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ทำไม Sitemap Google ถึงสำคัญกับการทำ SEO?

การมี Sitemap ที่ดีส่งผลดีต่อเว็บไซต์ของคุณหลายประการ:

  • ช่วยให้ Google เข้าถึงทุกหน้าของเว็บไซต์ โดยเฉพาะหน้าที่อาจซ่อนอยู่ลึกหรือไม่มีลิงก์เชื่อมโยงจากหน้าอื่นๆ มากพอ
  • ทำให้ Google รู้ว่าหน้าไหนสำคัญ แผนผังเว็บไซต์ช่วยให้ Google เข้าใจว่าหน้าไหนในเว็บไซต์ของคุณมีความสำคัญและควรได้รับการจัดอันดับ
  • เพิ่มโอกาสการติดอันดับ ไม่เพียงแค่ในหน้า Web Search ทั่วไป แต่ยังรวมถึง Google Image Search และ Video Search อีกด้วย
  • ช่วยให้เว็บไซต์ใหม่ถูกค้นพบเร็วขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดตัวและยังมีลิงก์จากภายนอกน้อย

จากประสบการณ์ของมืออาชีพหลายคน Sitemap Google ถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญของการทำ SEO ที่ไม่ควรมองข้าม เปรียบเสมือนการปูพื้นฐานที่แข็งแรงให้กับตึกสูง หากพื้นฐานไม่ดี ตึกก็ยากที่จะยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง ดังนั้น การใช้บริการ IT Solutions ที่มีความเชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

แผนผัง เว็บไซต์ มีกี่ประเภท? แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

Sitemap แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน:

1. HTML Sitemap

HTML Sitemap คือ แผนผังเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานเว็บไซต์โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถมองเห็นโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ชัดเจน และเข้าถึงหน้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยมักจะวางอยู่ในส่วน Footer ด้านล่างของเว็บไซต์ หรือบางเว็บไซต์อาจจะสร้างเป็นหน้าแยกต่างหาก

HTML Sitemap Website มีประโยชน์ดังนี้:

  • ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
  • ลดอัตราการออกจากเว็บไซต์ (Bounce Rate) เพราะผู้ใช้สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้เร็วขึ้น
  • ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) โดยรวม

2. XML Sitemap

XML Sitemap เป็นไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ Search Engine Bot เช่น Googlebot เพื่อให้พวกมันเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น XML Sitemap จะมีรายละเอียดมากกว่า HTML Sitemap และมีรูปแบบเฉพาะที่ Bot สามารถอ่านและประมวลผลได้

การสร้าง Sitemap แบบ XML ยังแบ่งย่อยออกเป็นหลายประเภทตามประเภทของเนื้อหา:

  • Image Sitemap: เป็น Sitemap ที่รวบรวมรูปภาพทั้งหมดในเว็บไซต์ ช่วยให้รูปของคุณปรากฏใน Google Image Search ได้ดีขึ้น
  • Video Sitemap: รวบรวมวิดีโอทั้งหมดในเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาวิดีโอของคุณ
  • News Sitemap: สำหรับเว็บไซต์ข่าว ช่วยให้บทความข่าวของคุณมีโอกาสปรากฏใน Google News
  • Mobile Sitemap: (ปัจจุบันไม่ค่อยใช้แล้ว) เดิมใช้สำหรับโทรศัพท์แบบ Feature Phone แต่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟนแล้ว

ควรเริ่มทำ Sitemap Website เมื่อไหร่?

คำตอบคือ: ควรเริ่มทำตั้งแต่ก่อนลงมือสร้างเว็บไซต์

การวางแผนผังเว็บไซต์ตั้งแต่ต้นจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของเว็บไซต์ทั้งหมด ทำให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ ไม่สับสน และไม่หลงลืมส่วนสำคัญของเว็บไซต์ เปรียบเสมือนการวาดแบบบ้านก่อนลงมือสร้าง ซึ่งทำให้ช่างก่อสร้างเข้าใจแผนงานได้ชัดเจน คุณสามารถดูบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเว็บไซต์ได้ที่ บริการของเรา

นอกจากนี้ การ Create Sitemap ตั้งแต่ต้นยังช่วยให้คุณ:

  • มองเห็นโครงสร้างเว็บไซต์ในภาพรวม
  • ตรวจสอบความครบถ้วนของเนื้อหาที่จำเป็น
  • วางแผนการเชื่อมโยงระหว่างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระบุจุดที่อาจเกิดความซ้ำซ้อนหรือสับสนได้ล่วงหน้า

เว็บไซต์แบบไหนจำเป็นต้องมี Sitemap Google?

แม้ว่าการมี Sitemap จะเป็นประโยชน์สำหรับเว็บไซต์เกือบทุกประเภท แต่มีบางกรณีที่แผนผังเว็บไซต์มีความจำเป็นมากเป็นพิเศษ:

เว็บไซต์ที่ควรมี Sitemap:

  • เว็บไซต์ขนาดใหญ่ ที่มีหน้าเว็บเพจจำนวนมาก ทำให้ Google อาจพลาดการเก็บข้อมูลหน้าใหม่หรือหน้าที่อัปเดตไป
  • เว็บไซต์ใหม่ ที่ยังมี External Links จำนวนน้อย เพราะปกติแล้ว Bot จะติดตาม External Links เพื่อเข้ามาเก็บข้อมูล
  • เว็บไซต์ที่มีเนื้อหามัลติมีเดียจำนวนมาก เช่น รูปภาพหรือวิดีโอ เพื่อให้ Google สามารถค้นพบและจัดอันดับเนื้อหาเหล่านี้ได้ดีขึ้น
  • เว็บไซต์ที่มีหน้าที่อัปเดตบ่อย เช่น เว็บข่าว เว็บบล็อก เพื่อให้ Google รู้ว่ามีเนื้อหาใหม่เพิ่มเติม

เว็บไซต์ที่อาจไม่จำเป็นต้องมี Sitemap:

  • เว็บไซต์ขนาดเล็ก ที่มีหน้าเว็บเพจไม่เกิน 500 หน้า
  • เว็บไซต์ที่มี Internal Link ครอบคลุม ทำให้ Google สามารถค้นพบทุกหน้าได้ง่ายอยู่แล้ว
  • Landing Page ที่มีเพียงหน้าเดียวหรือไม่กี่หน้า

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO หลายคนแนะนำว่า แม้จะเป็นเว็บไซต์ประเภทที่อาจไม่จำเป็นต้องมี Sitemap ก็ควรจัดทำไว้ เพราะไม่มีข้อเสียใด ๆ และอาจเป็นประโยชน์ในอนาคตเมื่อเว็บไซต์ขยายตัว การมีบริการ ทดสอบซอฟต์แวร์ ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า Sitemap ของคุณทำงานได้อย่างถูกต้อง

วิธี Create Sitemap แบบง่าย ๆ สำหรับเว็บไซต์ WordPress

สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้ WordPress การสร้าง Sitemap เป็นเรื่องง่ายมาก เพราะมีปลั๊กอินที่ช่วยสร้าง Sitemap ให้โดยอัตโนมัติ โดยวิธีที่นิยมที่สุดคือการใช้ Yoast SEO ซึ่งเป็นปลั๊กอินยอดนิยมสำหรับการทำ Google Sitemap SEO

ขั้นตอนการสร้าง Sitemap ด้วย Yoast SEO:

  1. ติดตั้งปลั๊กอิน Yoast SEO ผ่าน WordPress Plugin
  2. เปิดใช้งาน XML Sitemap โดยไปที่ Yoast SEO > Features > XML Sitemaps แล้วเปิดสวิตช์ให้เป็น “On”
  3. ตรวจสอบ Sitemap โดยคลิกที่ “See the XML Sitemap” เพื่อดูว่า Sitemap ทำงานถูกต้องหรือไม่
  4. ยื่น Sitemap ให้ Google โดยไปที่ Google Search Console > Sitemaps > เพิ่ม Sitemap URL

สำหรับผู้ที่ใช้ All in One SEO Pack ก็สามารถสร้าง Sitemap Website ได้เช่นกัน โดยมีขั้นตอนคล้ายกันคือ ไปที่ All in One SEO > Sitemaps แล้วเปิดใช้งาน

การปรับแต่ง Sitemap ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ Google Sitemap SEO

เพื่อให้แผนผังเว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรปรับแต่งให้ถูกต้องตามหลักการ ดังนี้:

การปรับแต่ง Sitemap ใน Yoast SEO:

  1. กำหนดหน้าที่ต้องการให้แสดงใน Sitemap โดยไปที่ Yoast SEO > Search Appearance > Content Types
    • เปิดให้แสดงเฉพาะหน้าที่ต้องการให้ติดอันดับบน Google เช่น Posts, Pages
    • ปิดการแสดงหน้าที่ไม่ต้องการ เช่น Landing Pages, Archives
  2. จัดการกับ Taxonomies และ Archives
    • Categories, Tags: เปิดหรือปิดตามความเหมาะสม
    • Author Archives, Date Archives: แนะนำให้ปิดเพื่อป้องกัน Duplicate Content
  3. ตรวจสอบ robots.txt เพื่อให้แน่ใจว่ามีการระบุตำแหน่ง Sitemap อย่างถูกต้อง โดยควรมีบรรทัดแบบนี้:

User-agent: * Allow: /wp-admin/admin-ajax.php Allow: / Disallow: /wp-admin/ Sitemap: https://yourwebsite.com/sitemap.xml

การยื่น Sitemap Google ให้ Search Console

การสร้าง Sitemap เป็นเพียงครึ่งทางของความสำเร็จ คุณยังต้องแจ้งให้ Google รู้ว่า Sitemap ของคุณอยู่ที่ไหนด้วย วิธีที่ดีที่สุดคือการยื่น Sitemap ผ่าน Google Search Console:

  1. ลงทะเบียนเว็บไซต์ของคุณกับ Google Search Console
  2. ไปที่เมนู “Sitemaps” ซึ่งอยู่ในแถบเมนูด้านซ้าย
  3. กรอก URL ของ Sitemap ในช่อง “Add a new sitemap” (โดยทั่วไปคือ yourdomain.com/sitemap.xml)
  4. คลิก “Submit” เพื่อส่ง Sitemap ให้ Google

หลังจากยื่น Sitemap แล้ว Google จะเริ่มอ่านและประมวลผล Sitemap ของคุณ ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหลายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับขนาดของเว็บไซต์

ข้อควรระวังในการทำ Sitemap Website

แม้ว่า Sitemap จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ:

  • อย่าใส่หน้าที่ไม่ต้องการให้ Google จัดอันดับ เช่น หน้า Thank You, หน้า Login หรือหน้าที่มีเนื้อหาซ้ำซ้อน
  • ตรวจสอบความถูกต้องของ URL ใน Sitemap อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มี URL ที่ไม่ถูกต้องหรือเข้าถึงไม่ได้
  • อัปเดตแผนผังเว็บไซต์ เมื่อมีการเพิ่มหรือลบหน้าจากเว็บไซต์
  • ระวังกรณีเว็บไซต์หลายภาษา ควรระบุ hreflang attribute ให้ถูกต้องใน Sitemap

บริการพัฒนา Sitemap Website โดย RED CODE

ที่ RED CODE เรามีบริการพัฒนา Sitemap แบบครบวงจรที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ดียิ่งขึ้น ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาแผนผังเว็บไซต์ให้กับเว็บไซต์หลากหลายประเภท ตั้งแต่เว็บไซต์องค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงเว็บไซต์ธุรกิจ SMEs

บริการของเราครอบคลุม:

  • การวิเคราะห์โครงสร้างเว็บไซต์ เพื่อวางแผน Sitemap ที่เหมาะสมที่สุด
  • การพัฒนา HTML Sitemap ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน
  • การสร้าง XML Sitemap ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น
  • การยื่น Sitemap ให้ Google Search Console และตรวจสอบผลลัพธ์
  • การแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ Sitemap เช่น URL ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้หรือ Sitemap Error

เรามุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีระดับองค์กรมาพัฒนาเป็นโซลูชันที่เหมาะสมกับธุรกิจ SMEs ไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจทุกขนาดควรมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีที่ช่วยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

สรุป

Sitemap เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น ส่งผลให้เว็บไซต์ถูกจัดอันดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น HTML Sitemap สำหรับผู้ใช้งาน หรือ XML Sitemap สำหรับ Search Engine ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโอกาสความสำเร็จ การวางแผนและพัฒนา Sitemap ที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตอย่างมีระบบ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ที่ RED CODE เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ด้วยการพัฒนา Sitemap ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

Sitemap จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ทุกประเภทหรือไม่?

ไม่จำเป็นทุกเว็บ แต่แนะนำให้มี โดยเฉพาะเว็บใหม่ เว็บใหญ่มีหลายหน้า หรือเว็บที่มีเนื้อหามัลติมีเดียมาก เพื่อช่วยให้ Google ค้นพบหน้าเว็บของคุณได้ง่ายขึ้น

XML Sitemap กับ HTML Sitemap แตกต่างกันอย่างไร?

XML Sitemap สร้างสำหรับ Search Engine โดยเฉพาะ ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ ส่วน HTML Sitemap ทำสำหรับผู้ใช้งาน ช่วยให้ผู้เข้าชมเว็บค้นหาหน้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

มีวิธีง่าย ๆ ในการสร้าง Sitemap สำหรับมือใหม่หรือไม่?

หากใช้ WordPress เพียงติดตั้งปลั๊กอิน Yoast SEO หรือ All in One SEO แล้วเปิดใช้งานฟีเจอร์ XML Sitemap สำหรับเว็บทั่วไปสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์เช่น XML-Sitemaps.com ได้

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.