ในวันที่ธุรกิจต้องเร่งสร้างนวัตกรรมให้ทันโลก Low-Code Apps ได้กลายเป็นทางลัดของการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทั้ง “เร็ว” และ “ยืดหยุ่น” ทำให้ไม่ใช่แค่นักพัฒนาเท่านั้นที่สร้างแอปได้ แต่แม้แต่ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด ก็สามารถร่วมสร้างแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์องค์กรได้เช่นกัน
RED CODE ผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ ขอพาคุณไปรู้จักกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ให้ลึกขึ้น ว่าทำไมองค์กรยุคใหม่ถึงเลือกใช้ Low-Code เพื่อเร่งสปีดการเติบโต และ Best Low-Code Platforms ตัวไหนที่ควรจับตา ถ้าคุณไม่อยากตกเทรนด์ดิจิทัล บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
Low-Code Apps ที่มาอย่างไร?
Low-Code Apps มีจุดเริ่มต้นจากยุคการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ Rapid Application Development (RAD) ในช่วงต้นปี 2000 แต่คำว่า “Low-Code” เริ่มเป็นที่รู้จักจากบริษัทวิจัย Forrester ในปี 2014 ซึ่งได้กำหนดนิยามและแนวคิดที่ชัดเจน ทำให้ Framework Low-Code ประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ Low-Code Development ในปัจจุบันนั่นเอง
Low-Code Apps คืออะไร?
Low-Code Platform คือ แพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Low-Code แอป ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดจำนวนมาก Best Low-Code Platforms เน้นการใช้อินเทอร์เฟซแบบกราฟิก การลากและวาง (Drag & Drop) และคอมโพเนนต์สำเร็จรูปในการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้และตรรกะการทำงาน
Framework Low-Code ยังช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมธุรกิจและทีมไอที โดยเปิดโอกาสให้ “Citizen Developers” หรือผู้ใช้ในองค์กรที่ไม่มีทักษะการเขียนโค้ดสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำแอป หลายแห่งจึงแนะนำให้องค์กรต่าง ๆ หันมาใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อช่วยลดความซับซ้อนในการทำงาน
ทำไมถึงควรใช้ Low-Code Apps?
Low-Code Technology กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก พร้อมทั้งมี Best Low-Code Platforms ที่มีตัวเลือกออกมามากมาย หากคุณกำลังสงสัยว่าทำไมแพลตฟอร์มเหล่านี้จึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายองค์กรให้ความสนใจ RED CODE มีคำตอบให้กับคุณ
1. ประหยัดเวลา
การใช้ Low-Code Apps ช่วยเร่งกระบวนการพัฒนาได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่าและลดขั้นตอนการพัฒนาจาก 16 ขั้นตอนเหลือเพียง 7 ขั้นตอน ทำให้องค์กรสามารถเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ได้รวดเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น Schneider Electric บริษัทด้านการจัดการพลังงานระดับโลก หลังจากใช้แพลตฟอร์ม OutSystems สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้ถึง 60 แอปภายใน 20 เดือน ประหยัดเวลาการทำงานไปได้ถึง 650 วัน
2. ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
Low-Code Platform มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า โดยมีราคาตั้งแต่เดือนละ 800 บาทสำหรับแพลตฟอร์มขนาดเล็ก ไปจนถึง 160,000 บาทสำหรับโซลูชันระดับองค์กร ซึ่งถือว่าประหยัดกว่าการจ้างบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอกหรือการสรรหาโปรแกรมเมอร์มาเป็นพนักงานประจำ นอกจากนี้ยังช่วยลดความท้าทายในการหาบุคลากรด้านไอทีที่มีทักษะสูงซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในตลาดปัจจุบัน
3. ใช้งานง่าย มือใหม่ด้านการเขียนโค้ดก็ใช้ได้
Framework Low-Code ได้รับการออกแบบให้มีความเรียบง่ายและใช้งานได้ทันที ด้วยเครื่องมือสำเร็จรูปและฟีเจอร์ Drag & Drop ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์มาก่อนก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพได้ไม่ยาก
4. ยืดหยุ่นและคล่องตัว
Low-Code Apps มอบความยืดหยุ่นสูงให้กับองค์กรทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ตอัปหรือบริษัทที่มีมานานแล้ว สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย Framework Low-Code เหมาะสำหรับการสร้างระบบที่ต้องปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้ตลอดเวลา เช่น หากต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ สามารถสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress หรือ Wix และเชื่อมต่อกับระบบ E-Commerce เช่น Shopify ได้อย่างรวดเร็ว
5. มีประสิทธิภาพและทันสมัยกว่า
สำหรับองค์กรที่ใช้ระบบเก่าหรือ Legacy System การปรับใช้ Low-Code แอป จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบเก่าที่มักเป็นภาระหนักด้านงบประมาณ ตัวอย่างเช่น รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้งบประมาณถึง 75% ของงบด้านไอทีไปกับการบำรุงรักษาระบบที่สร้างขึ้นเมื่อ 25 ปีก่อน การปรับใช้ Low-Code Development Platform จะช่วยให้องค์กรก้าวทันเทคโนโลยีและรองรับการเติบโตในอนาคต
คุณลักษณะของ Low-Code Apps เป็นอย่างไร?
Low-Code Apps มีคุณลักษณะเด่นที่ช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ไม่เพียงแต่นักพัฒนามืออาชีพ แต่รวมถึงผู้ใช้ในองค์กรด้วย
- อินเตอร์เฟซที่ใช้งานแบบลากวาง: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วโดยการลากและวางคอมโพเนนต์ต่าง ๆ เช่น ฟอร์ม ปุ่ม และตาราง ทำให้การออกแบบ UI เป็นเรื่องง่ายและไม่ต้องเขียนโค้ดจำนวนมาก
- การจำลองภาพ: ใช้การสร้างแบบจำลองภาพ UI แทนการเขียนโค้ดหลายร้อยบรรทัด มีบล็อกการสร้างสำเร็จรูปที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันได้อย่างรวดเร็ว
- Out-of-the-box functionality: แพลตฟอร์ม Best Low-Code Platforms มาพร้อมกับฟังก์ชันสำเร็จรูปมากมาย ทำให้สามารถเริ่มพัฒนาได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าหรือติดตั้งเพิ่มเติม ผู้ใช้ธุรกิจสามารถเริ่มสร้างแอปพลิเคชันได้ทันที
- ความคล่องตัวของแอปพลิเคชัน: Platform Low-Code ได้รับการออกแบบให้รองรับการทำงานบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทั้งเดสก์ท็อป แท็บเล็ต และอุปกรณ์มือถือ โดยไม่ต้องปรับแต่งการออกแบบเพิ่มเติม ทำให้แอปพลิเคชันที่พัฒนาสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
Low-Code Apps ควรใช้เมื่อไหร่?
Low-Code Development เหมาะสำหรับหลายสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็วและความยืดหยุ่นในการพัฒนา โดยไม่จำเป็นต้องมีโค้ดที่ซับซ้อน เช่น
- การใช้แอปพลิเคชันภายในองค์กร (Internal Applications): เหมาะสำหรับการพัฒนาระบบภายในองค์กรที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น ระบบลางาน ระบบจองห้องประชุม ระบบติดตามสินค้าคงคลัง หรือระบบรายงานผลการดำเนินงาน
- การทำ Rapid Application Development (RAD): เมื่อองค์กรต้องการพัฒนาและนำเสนอแอปพลิเคชันสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว Low-Code Apps สามารถช่วยลดเวลาในการพัฒนาและทดสอบ
- การทำ Business Process Automation (BPA): การสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการธุรกิจ เช่น ระบบอนุมัติเอกสาร ระบบจัดการคำขอ หรือระบบจัดการโครงการ Low-Code Platform ช่วยให้สามารถสร้างระบบเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับแต่งตามความต้องการขององค์กร
หากต้องการพัฒนา Low-Code สำหรับแอปพลิเคชัน สามารถใช้บริการ RED CODE ได้แล้ววันนี้!
RED CODE เป็นพาร์ทเนอร์ชั้นนำด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย Low-Code Platform ที่พร้อมช่วยยกระดับธุรกิจของคุณด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้านการทำแอป ที่เชี่ยวชาญเรื่อง Low-Code Apps ทีมงานมืออาชีพของเรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี Low-Code และ No-Code จากแพลตฟอร์มชั้นนำต่าง ๆ เช่น Low-Code Outsystems, Microsoft Power Platform และ Mendix
ด้วยแนวทางการทำงานแบบ SCRUM และตรงตามความต้องการในองค์กรของคุณ เราสามารถส่งมอบแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพสูงในเวลาอันรวดเร็ว และด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์แต่มีโครงสร้างต้นทุนที่ยืดหยุ่น ทำให้คุณได้รับบริการระดับพรีเมียมในราคาที่เหมาะสม
สรุป
Low-Code Platform เป็นนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนโฉมวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยช่วยให้การสร้างแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำ องค์กรที่นำ Low-Code Apps มาใช้จะได้เปรียบในการแข่งขันด้วย ความสามารถในการตอบรับต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว Framework Low-Code ที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและทำให้องค์กรของคุณก้าวเหนือคู่แข่ง
สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร Low-Code Development Platform เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับองค์กร ติดต่อ RED CODE วันนี้เพื่อปรึกษาและขอรับคำแนะนำเกี่ยวกับการนำ Low-Code Platform มาใช้ในธุรกิจของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
Low-code/No-code Platform คืออะไร?
Low-code/No-code Platform คือ แพลตฟอร์มการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้อินเตอร์เฟซกราฟิกและการลากวางแทนการเขียนโค้ด โดย Low-code ยังต้องอาศัยการใช้โค้ดบ้างเล็กน้อย ส่วน No-code ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเลย ทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้
การใช้ Low-Code มีข้อดีอะไรบ้าง?
การใช้ Low-Code Apps มีข้อดีมากมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรดังนี้
- พัฒนาเร็วขึ้น: สร้างแอปพลิเคชันได้เร็วกว่าวิธีแบบดั้งเดิมถึง 10 เท่า
- ประหยัดต้นทุน: ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างนักพัฒนาและการบำรุงรักษาระบบ
- ใช้งานง่าย: บุคลากรที่ไม่มีทักษะการเขียนโค้ดก็สามารถสร้างแอปได้
- ปรับขยายได้: แอปพลิเคชันสามารถเติบโตและรองรับผู้ใช้จำนวนมากได้
- ทำงานร่วมกัน: ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมธุรกิจและทีมไอที
Nocode มีอะไรบ้าง?
แพลตฟอร์ม No-code ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีหลากหลายตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น
- Bubble: แพลตฟอร์มสร้างเว็บแอปพลิเคชันแบบครบวงจร ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและเปิดตัวเว็บแอปที่มีความซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
- Webflow: เครื่องมือสร้างเว็บไซต์และระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ให้อิสระในการออกแบบและสร้างเว็บไซต์ระดับมืออาชีพ
- Airtable: ฐานข้อมูลและเครื่องมือจัดการข้อมูลแบบ visual ที่ผสมผสานความสามารถของสเปรดชีตและฐานข้อมูล
- Zapier: เครื่องมือเชื่อมต่อและอัตโนมัติกระบวนการทำงานระหว่างแอปต่าง ๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
- Adalo: แพลตฟอร์มสำหรับสร้างแอปพลิเคชันมือถือแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ทั้งระบบ iOS และ Android
ลักษณะเด่นของ Low code Oneweb มีอะไรบ้าง?
ลักษณะเด่นของ Low-Code Platform OneWeb ที่ช่วยให้องค์กรพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น
- มีคอมโพเนนต์สำเร็จรูปมากกว่า 1,000 รายการ
ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างรวดเร็ว - รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันบนหลายแพลตฟอร์ม
สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ทำงานได้ทั้งบนเว็บและมือถือจากฐานโค้ดเดียวกัน - มีเครื่องมือ Visual Modeling และ Drag-and-Drop Interface
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันได้โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ดขั้นสูง - สามารถปรับแต่งระบบได้อย่างยืดหยุ่น
ทำให้ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเฉพาะของธุรกิจ
เหมาะสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันระดับองค์กร
ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ




