WordPress คืออะไร? เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ยอดนิยมที่ใช้งานง่ายสำหรับทุกคน

WordPress

คุณกำลังคิดจะสร้างเว็บไซต์แต่ไม่มีความรู้เรื่องการเขียนโค้ด? หรือต้องการปรับปรุงเว็บไซต์ธุรกิจให้ดูทันสมัยและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น? WordPress อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! มาทำความรู้จักกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกกัน และเรียนรู้วิธีใช้ WordPress สร้างเว็บที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

WordPress คืออะไร?

WordPress หรือที่คนไทยเรียกว่า “เวิร์ดเพรส” เป็นระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System หรือ CMS) ที่ช่วยให้คุณสร้างและบริหารจัดการเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ดภาษาคอมพิวเตอร์อย่าง PHP, HTML หรือ CSS

ในทางเทคนิค WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open-Source Software) ที่พัฒนาด้วยภาษา PHP และใช้ฐานข้อมูล MySQL เพื่อเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ แต่คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเทคนิคเหล่านี้เลยเพื่อใช้งาน WordPress ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน (ข้อมูลล่าสุด) มีเว็บไซต์ประมาณ 42% ของเว็บไซต์ทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตที่สร้างด้วย WordPress ซึ่งบ่งบอกถึงความนิยมและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มนี้ คุณสามารถ download WordPress ได้ฟรีและเริ่มสร้างเว็บไซต์ได้ทันที

ทำไม Website WordPress จึงได้รับความนิยมมากที่สุด?

Website WordPress ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามด้วยเหตุผลมากมาย ที่ทำให้ทั้งมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญต่างเลือกใช้:

  • ใช้งานง่าย: มีหน้าจอควบคุมที่เข้าใจง่าย แม้คุณไม่มีความรู้ด้านเทคนิคก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้
  • ฟรี และเป็นโอเพนซอร์ส: ตัวซอฟต์แวร์หลักสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าลิขสิทธิ์
  • ยืดหยุ่นสูง: สร้างเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกส่วนตัว เว็บธุรกิจ หรือร้านค้าออนไลน์
  • มีธีมและปลั๊กอินมากมาย: เพิ่มความสวยงามและฟังก์ชันได้ตามต้องการ ด้วยธีมและปลั๊กอินที่มีให้เลือกทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
  • เป็นมิตรกับ SEO: ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำ SEO ได้ดี ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาได้ง่ายขึ้น
  • มีชุมชนสนับสนุนขนาดใหญ่: มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาทั่วโลกที่พร้อมช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
  • อัปเดตอย่างสม่ำเสมอ: ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปัจจุบัน

WordPress.com VS WordPress.org: เลือก Download WordPress แบบไหนดี?

หลายคนอาจสับสนระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org ซึ่งมีความแตกต่างสำคัญที่ควรรู้ก่อนเลือก download WordPress:

WordPress.com

เป็นบริการเว็บสำเร็จรูปที่ให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้ทันทีหลังสมัครสมาชิก:

  • สมัครใช้งานฟรี แต่มีแพ็กเกจเสียเงินที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม
  • ไม่ต้องจัดการเรื่องโฮสติ้งหรือโดเมนเอง (แต่ถ้าต้องการโดเมนเป็นของตัวเอง ต้องอัปเกรดแพ็กเกจ)
  • มีข้อจำกัดในการติดตั้งธีมและปลั๊กอิน โดยเฉพาะในแพ็กเกจฟรี
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองใช้งาน หรือทำบล็อกส่วนตัวแบบง่าย ๆ

WordPress.com มีแพ็กเกจหลายระดับตั้งแต่ฟรีไปจนถึงแพ็กเกจระดับธุรกิจ:

  • Personal: สำหรับเว็บส่วนตัวที่ต้องการดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
  • Premium: สำหรับบล็อกที่จริงจังมากขึ้น มีเครื่องมือเสริมหลายอย่าง
  • Business: สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจที่ต้องการฟีเจอร์ครบครัน
  • eCommerce: ออกแบบมาเพื่อร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ

WordPress.org

เป็นซอฟต์แวร์ที่คุณ download WordPress และติดตั้งเองบนเว็บโฮสติ้งของคุณ:

  • ดาวน์โหลดฟรี แต่ต้องเสียค่าโฮสติ้งและโดเมนเอง
  • มีอิสระเต็มที่ในการปรับแต่งเว็บไซต์ สามารถติดตั้งธีมและปลั๊กอินได้ไม่จำกัด
  • ควบคุมเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการสำรองข้อมูลและความปลอดภัย
  • เหมาะสำหรับธุรกิจและผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการจัดการเว็บไซต์

องค์ประกอบสำคัญของ CMS WordPress

1. ธีม (Themes)

ธีมคือรูปแบบและหน้าตาของเว็บไซต์ ซึ่งกำหนดการแสดงผลและโครงสร้างของเว็บไซต์คุณ:

  • มีทั้งธีมฟรีและแบบเสียเงิน (พรีเมียม)
  • เลือกตามประเภทธุรกิจหรือเป้าหมายการใช้งาน เช่น บล็อก ร้านค้า พอร์ตโฟลิโอ ฯลฯ
  • สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ทั้งสี ฟอนต์ และเลย์เอาต์
  • ธีมที่ดีควรรองรับการแสดงผลบนทุกอุปกรณ์ (Responsive Design)

การเลือกธีมที่เหมาะสมเป็นพื้นฐานสำคัญในการใช้ WordPress สร้างเว็บ ที่สวยงามและใช้งานได้ดี ธีมไม่เพียงแค่ให้ความสวยงามแต่ยังมีผลต่อฟีเจอร์การใช้งานที่แตกต่างกันด้วย

2. ปลั๊กอิน (Plugins)

ปลั๊กอินเป็นซอฟต์แวร์เสริมที่เพิ่มความสามารถให้กับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ:

  • WordPress.org มีปลั๊กอินฟรีให้เลือกกว่า 55,000 แบบ
  • เพิ่มฟังก์ชันได้หลากหลาย เช่น แบบฟอร์มติดต่อ ระบบร้านค้า เครื่องมือ SEO แกลเลอรี่ภาพ ฯลฯ
  • สามารถจ้างนักพัฒนาให้สร้างปลั๊กอินเฉพาะทางได้ หากมีความต้องการพิเศษ
  • ปลั๊กอินยอดนิยม เช่น Yoast SEO สำหรับการทำ SEO, WooCommerce สำหรับสร้างร้านค้าออนไลน์

ปลั๊กอินช่วยให้คุณสามารถเพิ่มความสามารถให้เว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง ทำให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

WordPress ช่วยเรื่อง SEO ได้อย่างไร

CMS WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับ SEO อย่างมาก ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยม:

  • โครงสร้างที่เป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา: WordPress มีโครงสร้างโค้ดที่สะอาดและเป็นระเบียบ ช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดี
  • URL ที่เป็นมิตร: สามารถกำหนด URL ให้อ่านง่าย มีคีย์เวิร์ดสำคัญได้
  • ปลั๊กอิน SEO: มีปลั๊กอินที่ช่วยในการทำ SEO โดยเฉพาะ เช่น Yoast SEO ที่แนะนำวิธีปรับปรุงเนื้อหาให้ติดอันดับได้ดีขึ้น
  • การจัดการเนื้อหาที่ดี: ระบบหมวดหมู่และแท็กช่วยจัดระเบียบเนื้อหา ทำให้ผู้ใช้และ Search Engine เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
  • รองรับการอัปเดตเนื้อหาสม่ำเสมอ: เว็บไซต์ที่มีการอัปเดตบ่อย มักได้รับความสนใจจาก Search Engine มากกว่า

วิธีเริ่มต้นใช้ WordPress สร้างเว็บ

1. ตั้งค่าเว็บไซต์เบื้องต้น

เมื่อเข้าสู่ระบบ WordPress คุณจะเห็นแถบเครื่องมือด้านซ้ายมือที่มีเมนูต่าง ๆ มากมาย มาดูการตั้งค่าสำคัญกัน:

การตั้งค่าทั่วไป (General Settings)

  • กำหนดชื่อเว็บไซต์และคำอธิบายสั้นๆ
  • ตั้งค่าอีเมลผู้ดูแลระบบ
  • กำหนดโซนเวลาให้ตรงกับประเทศไทย
  • เลือกรูปแบบการแสดงวันที่และเวลา

การตั้งค่าการอ่าน (Reading Settings)

  • กำหนดหน้าแรกของเว็บไซต์ว่าจะแสดงบทความล่าสุดหรือหน้าที่กำหนดเอง
  • ตั้งค่าจำนวนบทความที่แสดงต่อหน้า

การตั้งค่าการเขียน (Writing Settings)

  • กำหนดหมวดหมู่เริ่มต้นสำหรับบทความใหม่
  • เลือกรูปแบบบทความเริ่มต้น

การตั้งค่าการสนทนา (Discussion Settings)

  • กำหนดการอนุญาตให้มีการแสดงความคิดเห็น
  • ตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อมีความคิดเห็นใหม่
  • กำหนดว่าความคิดเห็นต้องได้รับการอนุมัติก่อนหรือไม่

2. สร้างเนื้อหาให้เว็บไซต์

เวิร์ดเพรสแบ่งเนื้อหาเป็นสองประเภทหลัก:

เพจ (Pages)

  • ใช้สำหรับเนื้อหาที่ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น หน้าเกี่ยวกับเรา หน้าติดต่อ
  • สร้างได้โดยไปที่ “Pages > Add New”
  • สามารถจัดลำดับและสร้างเป็นโครงสร้างลำดับชั้นได้

บทความ (Posts)

  • ใช้สำหรับเนื้อหาที่มีการอัปเดตบ่อย เช่น ข่าวสาร บล็อก
  • สร้างได้โดยไปที่ “Posts > Add New”
  • สามารถจัดหมวดหมู่และเพิ่มแท็กได้
  • แสดงผลตามลำดับเวลา จากใหม่ไปเก่า

การสร้างเนื้อหาทั้งสองประเภทมีองค์ประกอบสำคัญ:

  • หัวข้อ (Title): ชื่อของเพจหรือบทความ
  • เครื่องมือจัดการเนื้อหา (Visual Editor): ช่วยให้คุณจัดรูปแบบข้อความ ใส่รูปภาพ วิดีโอ และสร้างลิงก์ได้
  • การเผยแพร่ (Publish): กำหนดสถานะของเนื้อหา (เผยแพร่, แบบร่าง, ตั้งเวลาโพสต์)

3. ตกแต่งหน้าตาเว็บไซต์

การตกแต่งเว็บไซต์เป็นส่วนสำคัญที่จะดึงดูดผู้เข้าชมและสะท้อนถึงแบรนด์ของคุณ:

เลือกธีม (Themes)

  • ไปที่ “Appearance > Themes”
  • เลือกธีมที่มีอยู่แล้วหรือกด “Add New” เพื่อหาธีมใหม่
  • ติดตั้งและเปิดใช้งานธีมที่ต้องการ
  • ปรับแต่งธีมเพิ่มเติมได้ที่ “Customize”

จัดการเมนู (Menus)

  • ไปที่ “Appearance > Menus”
  • สร้างเมนูใหม่และกำหนดชื่อ
  • เพิ่มเพจ บทความ หรือลิงก์ภายนอกลงในเมนู
  • กำหนดตำแหน่งการแสดงเมนูบนเว็บไซต์

ตั้งค่าวิดเจ็ต (Widgets)

  • ไปที่ “Appearance > Widgets”
  • เพิ่มวิดเจ็ตต่าง ๆ ลงในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ไซด์บาร์ ส่วนท้ายเว็บ
  • วิดเจ็ตมีหลายประเภท เช่น บทความล่าสุด, การค้นหา, แกลเลอรี่รูปภาพ

4. เพิ่มฟังก์ชันด้วยปลั๊กอิน

ปลั๊กอินช่วยเพิ่มความสามารถให้เว็บไซต์ตามความต้องการของคุณ:

  • ไปที่ “Plugins > Add New”
  • ค้นหาปลั๊กอินที่ต้องการโดยระบุชื่อหรือฟังก์ชันที่ต้องการ
  • กด “Install Now” และ “Activate” เพื่อเริ่มใช้งาน
  • ตั้งค่าปลั๊กอินตามต้องการที่เมนูการตั้งค่าของแต่ละปลั๊กอิน

ปลั๊กอินที่แนะนำสำหรับเว็บไซต์ทั่วไป:

  • Yoast SEO: ช่วยปรับแต่ง SEO ให้เว็บไซต์
  • Wordfence Security: เพิ่มความปลอดภัยให้เว็บไซต์
  • Contact Form 7: สร้างแบบฟอร์มติดต่อ
  • WP Super Cache: เพิ่มความเร็วให้เว็บไซต์

การตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หลังจากสร้างเว็บไซต์เสร็จแล้ว คุณควรทำการ ทดสอบซอฟต์แวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกส่วนทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

การพัฒนา Application บนพื้นฐาน WordPress

นอกจากการสร้างเว็บไซต์ทั่วไปแล้ว WordPress ยังสามารถนำไปพัฒนา Application ที่มีความซับซ้อนได้ด้วย:

  • Web Application: พัฒนาระบบที่มีความซับซ้อนบน WordPress เช่น ระบบจองห้องพัก ระบบจัดการสมาชิก หรือแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์
  • Mobile Application: สร้าง API จาก WordPress เพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนมือถือ
  • Custom Dashboard: พัฒนาแดชบอร์ดเฉพาะทางสำหรับผู้ใช้หรือผู้ดูแลระบบ
  • Community Platform: สร้างชุมชนออนไลน์ด้วยปลั๊กอินเช่น BuddyPress หรือ bbPress

การพัฒนา Application บน WordPress ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร เนื่องจากมีระบบพื้นฐานที่พร้อมใช้งาน และสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามต้องการ หรือถ้าต้องการความรวดเร็วยิ่งขึ้น คุณอาจพิจารณาใช้ Low-Code Platform เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนในเวลาที่น้อยลง

บริการ WordPress จาก RED CODE DEVELOPMENT

ที่ RED CODE DEVELOPMENT เราเชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของคุณ:

ออกแบบและพัฒนา Website WordPress แบบครบวงจร

เรามุ่งมั่นพัฒนาเว็บไซต์ WordPress ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับธุรกิจของคุณ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กับบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ เราเข้าใจความท้าทายในการทำธุรกิจเป็นอย่างดี

พัฒนา WordPress Plugin ตามความต้องการ

ต้องการฟังก์ชันพิเศษที่ปลั๊กอินทั่วไปไม่มี? เราสามารถพัฒนาปลั๊กอินเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณ ไม่ว่าจะเป็นระบบจองสินค้า ระบบสมาชิกพิเศษ หรือการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ

สร้างร้านค้าออนไลน์ด้วย WordPress และ WooCommerce

ต้องการขายสินค้าออนไลน์? เราพัฒนาร้านค้าออนไลน์บน WordPress ด้วย WooCommerce ที่รองรับระบบชำระเงินหลากหลายรูปแบบ การจัดการสินค้า และระบบขนส่งแบบครบวงจร

ดูแลและบำรุงรักษาเว็บไซต์ WordPress

การดูแลเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ เราให้บริการดูแลรักษาและสนับสนุนเว็บไซต์ WordPress ของคุณ รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ การสำรองข้อมูล และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

ปรับแต่งประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับ WordPress

เว็บไซต์ช้า? เราปรับแต่งประสิทธิภาพเว็บไซต์ WordPress ให้โหลดเร็วขึ้น รองรับผู้เข้าชมจำนวนมาก และช่วยให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเสริมความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตี

นอกจากการพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress เรายังให้บริการด้าน Low-Code เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สรุป

WordPress คือ ระบบจัดการเนื้อหาที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับทุกคนตั้งแต่มือใหม่จนถึงผู้เชี่ยวชาญ ด้วยความยืดหยุ่นของ WordPress คุณสามารถสร้างได้ทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว เว็บธุรกิจ หรือร้านค้าออนไลน์ โดยการเลือกใช้ธีมและปลั๊กอินที่เหมาะสม ไม่ว่าคุณจะเลือก WordPress.com หรือ WordPress.org RED CODE DEVELOPMENT พร้อมให้คำปรึกษาและบริการพัฒนาเว็บไซต์ WordPress แบบครบวงจรเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย

WordPress ใช้ทําอะไรได้บ้าง?

WordPress เป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ไม่ต้องเขียนโค้ด คุณสามารถสร้างได้ทั้งเว็บบล็อก เว็บธุรกิจ หรือร้านค้าออนไลน์ โดยปรับแต่งรูปแบบและเพิ่มฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ง่ายผ่านธีมและปลั๊กอิน

WordPress ใช้งานได้ฟรีหรือไม่?

ใช่! WordPress เป็นซอฟต์แวร์ฟรีแบบโอเพนซอร์ส คุณสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (แต่อาจมีค่าโฮสติ้งและโดเมนเนม) อินเทอร์เฟซถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายแม้ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค

WordPress ใช้ฐานข้อมูลอะไร?

WordPress ใช้ฐานข้อมูล MySQL เป็นหลัก เมื่อติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์หรือโฮสติ้ง คุณสามารถเลือกใช้ MySQL ได้เลย ซึ่งเป็นตัวเลือกมาตรฐานที่รองรับการทำงานของ WordPress ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.