Manual Tester คือใคร? ทำความรู้จักกับอาชีพที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับซอฟต์แวร์

Manual Tester คืออาชีพเงินดี เส้นทางอาชีพที่คนไอทีต้องรู้!

หากคุณเคยใช้งานแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหา นั่นเป็นเพราะมีบุคคลากรกลุ่มหนึ่งที่คอยตรวจสอบและค้นหาข้อผิดพลาดก่อนที่ซอฟต์แวร์นั้นจะมาถึงมือคุณ พวกเขาคือ “Manual Tester” หรือนักทดสอบซอฟต์แวร์แบบแมนนวล ที่ช่วยให้การทดสอบซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Manual Tester คืออะไร?

Manual Tester คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบซอฟต์แวร์แบบใช้แรงงานคน โดยไม่อาศัยเครื่องมือหรือสคริปต์อัตโนมัติในการทดสอบ ในวงการ software testing นั้น Manual Tester เป็นบุคลากรสำคัญที่จะจำลองตัวเองเป็นผู้ใช้งานจริง ทดลองใช้งานแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ทีละขั้นตอน เพื่อค้นหาข้อบกพร่อง (bug) หรือปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานจริง

การทดสอบแบบแมนนวลช่วยให้เข้าใจประสบการณ์ของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง และค้นพบปัญหาบางอย่างที่การทดสอบอัตโนมัติอาจไม่สามารถตรวจพบได้ เช่น ปัญหาด้าน UI/UX หรือลำดับขั้นตอนการใช้งานที่ไม่สะดวก โดยเฉพาะในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ต้องรองรับการใช้งานที่หลากหลาย

ในบางบริษัท Manual Tester อาจมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น QA Tester, Quality Assurance Engineer, Quality Engineer หรือ Software Tester แต่โดยหลักการแล้วล้วนทำหน้าที่คล้ายคลึงกัน คือตรวจสอบและประกันคุณภาพของซอฟต์แวร์ให้พร้อมก่อนส่งมอบให้ผู้ใช้งาน

เปรียบเทียบ Manual Testing กับ Automated Testing

ในการทดสอบซอฟต์แวร์ มีวิธีการหลัก 2 แบบ คือ Manual Testing และ Automated Testing ซึ่งมีข้อแตกต่างที่สำคัญดังนี้

Manual Testing

การทดสอบแบบแมนนวลมีลักษณะเด่นที่ใช้ทักษะของมนุษย์โดยตรง มีคุณสมบัติหลักดังนี้:

  • คือการทดสอบที่ใช้คนจริง ๆ ทำการทดสอบโดยจำลองตัวเองเป็นผู้ใช้งาน
  • ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสคริปต์พิเศษ แต่อาศัยประสบการณ์และความละเอียดรอบคอบของผู้ทดสอบ
  • เหมาะกับโครงการขนาดเล็กถึงกลาง หรือซอฟต์แวร์ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นพัฒนา
  • ช่วยค้นหาปัญหาด้าน UI/UX ที่การทดสอบอัตโนมัติอาจตรวจไม่พบ

Automated Testing

การทดสอบแบบอัตโนมัติใช้เทคโนโลยีเป็นหลักในการทำงาน โดยมีคุณลักษณะสำคัญดังต่อไปนี้:

  • ใช้เครื่องมือและสคริปต์อัตโนมัติ ในการทดสอบซอฟต์แวร์
  • ประหยัดเวลาในการทดสอบซ้ำ เพราะสามารถรันทดสอบได้อัตโนมัติ
  • เหมาะกับโครงการขนาดใหญ่ หรือซอฟต์แวร์ที่ต้องทดสอบซ้ำบ่อย ๆ
  • ต้องลงทุนในการเขียนสคริปต์และเครื่องมือ ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าสำหรับโครงการระยะสั้น

ขั้นตอนการทำงานของ Manual Tester

การทำงานของ Manual Tester มีขั้นตอนที่เป็นระบบและมีความสำคัญทุกขั้นตอน ซึ่งทำให้การทดสอบซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย:

1. การวางแผนทดสอบ (Test Planning)

ในขั้นตอนนี้ Manual Tester จะกำหนดขอบเขต วัตถุประสงค์ และทรัพยากรที่ต้องการในการทดสอบ โดยอาศัยการวิเคราะห์ความต้องการของระบบและผู้ใช้งาน เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของกระบวนการ Software Testing คือการวางแผนที่ดี

2. การออกแบบกรณีทดสอบ (Test Case Design)

Manual Tester จะสร้างกรณีทดสอบโดยคำนึงถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ซอฟต์แวร์ควรทำงานได้ ออกแบบ Test Scenario เพื่อจำลองเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน และเตรียม Test Data ที่เสมือนจริงเพื่อใช้ในการทดสอบ การออกแบบนี้เป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการที่บริษัทรับทดสอบ Software มืออาชีพให้ความสำคัญ

3. การตั้งค่าสภาพแวดล้อมทดสอบ (Test Environment Setup)

การจัดเตรียมสภาพแวดล้อม ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่าย ให้พร้อมสำหรับการทดสอบ รวมถึงการติดตั้ง Test Environment และเตรียม Test Data ที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละ Tester Program อาจต้องการสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

4. การทดสอบ (Test Execution)

ดำเนินการทดสอบตามกรณีทดสอบที่ออกแบบไว้ โดยจำลองตัวเองเป็นผู้ใช้งานจริง และทำการทดสอบทีละขั้นตอนตาม Test Script เพื่อค้นหาข้อบกพร่องหรือปัญหา นี่คือขั้นตอนที่แสดงให้เห็นว่า Software Tester Manual ต้องมีความละเอียดรอบคอบสูง

5. การบันทึกผลทดสอบ (Test Logging)

บันทึกผลลัพธ์ของการทดสอบ รวมถึงข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่พบ ซึ่งจะนำไปสู่การรายงานข้อบกพร่อง (Bug Reporting) ในระบบจัดการข้อผิดพลาด

6. การวิเคราะห์ผลทดสอบและรายงาน (Test Analysis and Reporting)

วิเคราะห์ผลทดสอบและรายงานข้อบกพร่อง รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุง ส่งมอบให้กับทีมพัฒนาหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการแก้ไขต่อไป ขั้นตอนนี้แสดงให้เห็นว่า Software Testing คือกระบวนการที่ต้องมีการสื่อสารที่ดีระหว่างทีม

7. การทดสอบการแก้ไข (Regression Testing)

เมื่อทีมพัฒนาแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว Manual Tester จะทำการทดสอบซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าการแก้ไขได้ผลและไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ของซอฟต์แวร์ เป็นการยืนยันว่าซอฟต์แวร์พร้อมสำหรับผู้ใช้งานแล้ว

ข้อดีและข้อเสียของ Manual Testing

เมื่อพิจารณาการทดสอบแบบแมนนวล เราจะพบว่ามีทั้งจุดเด่นและข้อจำกัดที่ควรทราบก่อนเลือกใช้วิธีการนี้

ข้อดีของ Manual Testing

การทดสอบแบบแมนนวลมีประโยชน์หลายประการที่ทำให้ยังคงเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการทดสอบซอฟต์แวร์:

  1. ค้นหาปัญหาได้อย่างละเอียด – เนื่องจากใช้คนจริงทดสอบ ทำให้สามารถมองเห็นข้อบกพร่องได้อย่างชัดเจน
  2. ไม่ต้องลงทุนในการเขียนสคริปต์ – ประหยัดต้นทุนในระยะสั้น
  3. ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ง่าย – สามารถปรับเปลี่ยนแผนการทดสอบได้ทันทีตามสถานการณ์
  4. เข้าใจประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง – สามารถประเมินความรู้สึกและประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้
  5. มีประสิทธิภาพสูงในการตรวจสอบ UI/UX – สามารถประเมินความสวยงาม ความใช้งานง่าย และลำดับการทำงานได้ดี

ข้อเสียของ Manual Testing

ถึงแม้จะมีข้อดีมากมาย แต่การทดสอบแบบแมนนวลก็มีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึง ดังนี้:

  1. ใช้เวลานาน – เนื่องจากต้องทำการทดสอบทีละขั้นตอนและทำซ้ำในกรณีที่มีการแก้ไข
  2. อาจมีข้อผิดพลาดจากมนุษย์ – การทดสอบอาจไม่ครอบคลุมทุกกรณีหากผู้ทดสอบขาดประสบการณ์หรือความละเอียดรอบคอบ
  3. ไม่เหมาะกับการทดสอบข้อมูลจำนวนมาก – ยากที่จะทดสอบระบบกับข้อมูลหลายพันรายการ
  4. อาจมีความเหนื่อยล้า – การทดสอบซ้ำ ๆ อาจทำให้ผู้ทดสอบเกิดความเหนื่อยล้าและพลาดรายละเอียดบางอย่างได้

ทักษะที่จำเป็นของ Manual Tester

การเป็น Manual Tester ที่ดีและเป็นที่ต้องการขององค์กรนั้น จำเป็นต้องมีทักษะที่หลากหลาย ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ดังนี้

Hard Skills (ทักษะด้านความรู้)

ทักษะด้านเทคนิคเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนในอาชีพนี้ควรมี การพัฒนาความรู้ในด้านต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเป็น Manual Tester ที่มีประสิทธิภาพ:

  1. ความรู้พื้นฐานด้าน Software Testing – เข้าใจกระบวนการและหลักการของการทดสอบซอฟต์แวร์
  2. ความเข้าใจใน Software Development Life Cycle (SDLC) – รู้จักวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อทำงานร่วมกับทีมพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ความรู้เรื่องเทคนิคการทดสอบ – เช่น Static Technique, Test Design Techniques และ Test Management
  4. ความคุ้นเคยกับเครื่องมือจัดการกรณีทดสอบและข้อผิดพลาด – เช่น JIRA, TestRail
  5. ความเข้าใจพื้นฐานของการเขียนโปรแกรม – อาจไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดได้ แต่ควรเข้าใจหลักการทำงานของโปรแกรม
  6. ความรู้เรื่องแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม และปลั๊กอิน – เข้าใจการทำงานของระบบที่เกี่ยวข้อง

Soft Skills (ทักษะด้านการทำงาน)

นอกจากทักษะทางเทคนิคแล้ว ทักษะด้านการทำงานและมนุษยสัมพันธ์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานร่วมกับทีมพัฒนาและลูกค้า:

  1. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา – สามารถวิเคราะห์ระบบและค้นหาสาเหตุของปัญหาได้
  2. ความละเอียดรอบคอบ – สังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของระบบได้ดี
  3. ทักษะการสื่อสารและการรายงานผล – สามารถอธิบายปัญหาและรายงานผลการทดสอบได้อย่างชัดเจน
  4. ทักษะการคิดนอกกรอบ – สามารถคิดถึงกรณีทดสอบที่ไม่ปกติหรือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้
  5. ทักษะการบริหารจัดการเวลาและโครงการ – สามารถวางแผนและจัดการการทดสอบให้เสร็จทันเวลา
  6. การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง – พร้อมเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง

ประเภทของการทดสอบที่ Manual Tester ควรรู้

ในการเป็น Manual Tester ที่มีประสิทธิภาพ ควรมีความเข้าใจในประเภทของการทดสอบที่หลากหลาย การรู้จักและเข้าใจวิธีการทดสอบแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ ดังนี้:

Functional Testing

การทดสอบฟังก์ชันการทำงานของซอฟต์แวร์ว่าทำงานได้ตามความต้องการหรือไม่ เช่น การกรอกข้อมูล การคลิกปุ่ม การทำธุรกรรมต่าง ๆ

Usability Testing

การทดสอบความง่ายในการใช้งานของซอฟต์แวร์ ดูว่าผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและใช้งานได้โดยง่ายหรือไม่

Performance Testing

การทดสอบประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ เช่น ความเร็วในการตอบสนอง การรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก

Security Testing

การทดสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ ตรวจสอบช่องโหว่หรือจุดอ่อนที่อาจถูกโจมตี

Exploratory Testing

การทดสอบแบบสำรวจ ซึ่งผู้ทดสอบจะทำการทดสอบโดยไม่มีแผนที่แน่นอน แต่อาศัยความคิดสร้างสรรค์และประสบการณ์ในการค้นหาข้อบกพร่อง

Regression Testing

การทดสอบซ้ำหลังจากมีการแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อให้แน่ใจว่าการแก้ไขไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ของซอฟต์แวร์

User Acceptance Testing (UAT)

การทดสอบการยอมรับของผู้ใช้งาน ซึ่งจะทำร่วมกับลูกค้าหรือผู้ใช้งานจริง เพื่อยืนยันว่าซอฟต์แวร์ตอบโจทย์ความต้องการ

เอกสารสำคัญในการทำงานของ Manual Tester

Manual Tester จำเป็นต้องเข้าใจและสามารถจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบซอฟต์แวร์ การจัดทำเอกสารที่ดีเป็น

เส้นทางการเติบโตในอาชีพ Manual Tester

อาชีพ Manual Tester มีโอกาสเติบโตได้หลายทิศทางในวงการไอที ดังนี้:

1. เติบโตในสายงานเดิม

  • QA Lead / Test Lead – หัวหน้าทีมทดสอบ ดูแลและบริหารทีม QA
  • Test Manager – ผู้จัดการด้านการทดสอบ วางแผนและกำหนดกลยุทธ์การทดสอบระดับองค์กร
  • QA Director – ผู้อำนวยการด้าน QA กำหนดนโยบายและมาตรฐานการควบคุมคุณภาพขององค์กร

2. เปลี่ยนไปสู่ตำแหน่งอื่นในสายงานไอที

  • Automation Tester – ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบอัตโนมัติ
  • Business Analyst – นักวิเคราะห์ธุรกิจ วิเคราะห์ความต้องการทางธุรกิจและแปลงเป็นความต้องการทางเทคนิค
  • Product Owner / Product Manager – ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ กำหนดทิศทางและความต้องการของผลิตภัณฑ์
  • Developer – นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (หากมีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมที่ดี)

สำหรับฐานเงินเดือนของตำแหน่งงาน Manual Tester ในประเทศไทย เริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 บาท สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ 3-5 ปี จะมีฐานเงินเดือนประมาณ 30,000 – 45,000 บาท และสามารถเติบโตไปถึงมากกว่า 60,000 บาทหากมีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี

บริการด้าน Software Testing จาก RED CODE

บริการด้าน Software Testing ที่บริษัทซอฟต์แวร์หรือบริษัทที่รับทดสอบ Software มักนำเสนอให้กับลูกค้า ประกอบด้วยบริการของเราดังต่อไปนี้:

1. Functional Testing Services

บริการทดสอบฟังก์ชันการทำงานของซอฟต์แวร์อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกฟังก์ชันทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้ โดย software tester manual จะตรวจสอบทุกฟังก์ชันอย่างละเอียด

2. Usability Testing Services

บริการทดสอบความสะดวกในการใช้งานของซอฟต์แวร์ มุ่งเน้นที่ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX) และการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ซึ่งเป็นจุดแข็งของการทดสอบซอฟต์แวร์โดย Manual Tester

3. Compatibility Testing Services

บริการทดสอบความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการ เบราว์เซอร์ อุปกรณ์ และแพลตฟอร์มต่างๆ บริการนี้มีความสำคัญมากในยุคที่มีอุปกรณ์หลากหลาย

4. Regression Testing Services

บริการทดสอบซ้ำหลังจากมีการอัปเดตหรือแก้ไขซอฟต์แวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อฟังก์ชันเดิม บริการนี้เป็นหนึ่งในบริการหลักที่ Software Tester มืออาชีพนำเสนอ

5. User Acceptance Testing (UAT) Services

บริการสนับสนุนการทดสอบการยอมรับของผู้ใช้งาน โดยทำงานร่วมกับลูกค้าหรือผู้ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่า Software Testing คือขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่งมอบงานที่มีคุณภาพ

6. Performance Testing Services

บริการทดสอบประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ภายใต้สภาวะการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของ Tester Program ที่เข้าใจการทำงานของซอฟต์แวร์เป็นอย่างดี

7. Security Testing Services

บริการทดสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ เพื่อค้นหาช่องโหว่และป้องกันการโจมตี ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นบริการที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ

8. Test Documentation Services

บริการจัดทำเอกสารการทดสอบต่าง ๆ เช่น Test Plan, Test Case, Test Script และรายงานผลการทดสอบ อันเป็นส่วนสำคัญของการทดสอบซอฟต์แวร์อย่างมีประสิทธิภาพหรือแก้ไขซอฟต์แวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อฟังก์ชันเดิม

5. User Acceptance Testing (UAT) Services

บริการสนับสนุนการทดสอบการยอมรับของผู้ใช้งาน โดยทำงานร่วมกับลูกค้าหรือผู้ใช้งานจริง

6. Performance Testing Services

บริการทดสอบประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ภายใต้สภาวะการใช้งานต่าง ๆ

7. Security Testing Services

บริการทดสอบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ เพื่อค้นหาช่องโหว่และป้องกันการโจมตี

8. Test Documentation Services

บริการจัดทำเอกสารการทดสอบต่าง ๆ เช่น Test Plan, Test Case, Test Script และรายงานผลการทดสอบ

สรุป

Manual Tester คือ ผู้เชี่ยวชาญที่ทดสอบซอฟต์แวร์ด้วยมือ โดยจำลองตัวเองเป็นผู้ใช้งานจริงเพื่อค้นหาข้อผิดพลาดก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ถึงแม้จะมีการทดสอบอัตโนมัติแต่ Manual Tester ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการทดสอบด้าน UI/UX และประสบการณ์ผู้ใช้

ผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ควรมีทั้งความรู้ด้านเทคนิค ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการสื่อสารที่ดี พร้อมรับเงินเดือนเริ่มต้นที่ 25,000 บาท และเติบโตได้สูงถึง 60,000 บาทหรือมากกว่าตามประสบการณ์

ในยุคดิจิทัล Manual Tester จึงเป็นอาชีพที่ยังเป็นที่ต้องการและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ

คำถามที่พบบ่อย

Manual Test คืออะไร?

Manual Testing เป็นกระบวนการทดสอบซอฟต์แวร์ที่ดำเนินการโดยมนุษย์โดยตรง โดยผู้ทดสอบจะใช้ความคิดและการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่พึ่งพาเครื่องมืออัตโนมัติหรือสคริปต์ ทดสอบตาม Test Plan, Test Case หรือ Test Scenarios อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์อย่างครอบคลุม

ตําแหน่งงาน Tester มีหน้าที่อะไรบ้าง?

Software Tester เป็นอาชีพที่มีบทบาทสำคัญในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ มีหน้าที่หลักในการตรวจสอบและค้นหาข้อผิดพลาดในระบบต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพสูงสุดและมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า โดยจะทำงานต่อจากนักพัฒนาโปรแกรม เพื่อกลั่นกรองและปรับปรุงคุณภาพซอฟต์แวร์

Software Tester กับ QA ต่างกันยังไง?

Software Tester มุ่งเน้นการค้นหาและระบุข้อบกพร่อง (บั๊ก) ก่อนที่ผู้ใช้จะพบเห็น พร้อมทำรายงานประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ ในขณะที่ Software QA Engineer จะให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ซอฟต์แวร์ตรงตามมาตรฐานและความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

เรทเงินเดือนของ Software Tester เริ่มต้นที่เท่าไหร่?

อาชีพ Software Tester มีความน่าสนใจทั้งในแง่ของโอกาสการเติบโตและค่าตอบแทน โดยเริ่มต้นที่ฐานเงินเดือนประมาณ 25,000 บาท สำหรับมือใหม่ หากมีประสบการณ์ 3-5 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ 30,000 – 45,000 บาท และสามารถเติบโตไปถึง 60,000 บาทหรือมากกว่าเมื่อมีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี นับเป็นอาชีพที่มีความก้าวหน้าและน่าสนใจอย่างยิ่ง

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.