ส่วนประกอบของเว็บเพจ: รู้จัก 3 ส่วนประกอบของเว็บเพจที่ต้องมีทุกเว็บ มาทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ

ส่วนประกอบของเว็บเพจ

การสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐาน เปรียบเสมือนการสร้างบ้านที่ต้องรู้จักส่วนประกอบแต่ละส่วนก่อนลงมือสร้าง เว็บเพจก็เช่นกัน! มาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของเว็บเพจที่จะช่วยให้คุณเข้าใจโครงสร้างของเว็บเพจมากขึ้น และสามารถวิธีสร้างเว็บที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เว็บเพจ คืออะไร? เว็บไซต์ และโฮมเพจ ต่างกันอย่างไร?

ก่อนจะเข้าสู่ส่วนประกอบของ Web Page เรามาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างคำศัพท์เหล่านี้กันก่อนดีกว่า:

เว็บเพจ คือ หน้าเว็บเพียงหน้าเดียวที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร รูปภาพ วิดีโอ หรือเสียง เปรียบเสมือนหน้ากระดาษหนึ่งหน้าในหนังสือ โดยสร้างขึ้นด้วยภาษา HTML เป็นหลัก และอาจมีภาษาอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น CSS, JavaScript, PHP

เว็บไซต์ (Website) คือ การรวมหน้าเว็บเพจหลาย ๆ หน้าเข้าด้วยกันภายใต้โดเมนเดียวกัน เหมือนกับหนังสือเล่มหนึ่งที่มีหลายหน้ารวมกัน โดยมีการเชื่อมโยงระหว่างหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ผ่าน Hyperlink ช่วยให้ผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก

โฮมเพจ (Home Page) คือ หน้าเว็บไซต์แรกที่ผู้ใช้จะเห็นเมื่อเข้าชมครั้งแรก เปรียบเหมือนหน้าปกหนังสือ มักรวมเมนูและข้อมูลสำคัญเพื่อนำทางผู้ใช้ไปยังส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์

ส่วนประกอบหลักของเว็บเพจ

หน้าเว็บเพจที่มีโครงสร้างของเว็บเพจที่ดีมักแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งแต่ละส่วนมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอข้อมูลและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้:

1. ส่วนหัวของหน้า (Page Header)

ส่วนหัวหน้าเว็บเพจเป็นส่วนแรกที่ผู้ใช้จะเห็น และเป็นส่วนประกอบหน้าเว็บเพจที่สำคัญที่สุดในการสร้างความประทับใจแรก ส่วนนี้มักประกอบด้วย:

  • โลโก้ (Logo) – เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงตัวตนของธุรกิจหรือเว็บไซต์ ช่วยสร้างการจดจำและความน่าเชื่อถือ
  • ชื่อเว็บไซต์ – บอกให้ผู้ใช้รู้ว่ากำลังเข้าชมหน้าเว็บไซต์อะไร
  • เมนูหลัก (Navigation Bar) – เปรียบเสมือนป้ายบอกทางที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก

การออกแบบส่วนหัวที่ดีควรเรียบง่าย สะดุดตา และใช้งานง่าย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ทันที โดยไม่ต้องคลิกหลายครั้ง นี่เป็นส่วนประกอบของเว็บไซต์ที่ไม่ควรมองข้าม ดังที่ RED CODE ให้ความสำคัญกับการออกแบบส่วนนี้เป็นอย่างมาก

2. ส่วนเนื้อหา (Page Body)

ส่วนเนื้อหาเป็นพื้นที่หลักของเว็บเพจที่นำเสนอข้อมูลสำคัญให้กับผู้ใช้ ส่วนประกอบของเว็บเพจนี้อาจประกอบด้วย:

  • ข้อความ – เนื้อหาที่ต้องการสื่อสารกับผู้อ่าน
  • รูปภาพ – ภาพประกอบที่ช่วยให้เนื้อหาน่าสนใจยิ่งขึ้น มักใช้ไฟล์นามสกุล .jpg, .png, หรือ .gif
  • วิดีโอ – สื่อมัลติมีเดียที่ช่วยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่น่าสนใจ
  • ตารางข้อมูล – นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
  • ฟอร์ม – ใช้รับข้อมูลจากผู้ใช้ เช่น แบบฟอร์มติดต่อ
  • ปุ่มกด (Button) – ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์ได้

การจัดวางเนื้อหาควรเป็นระเบียบ มีลำดับความสำคัญชัดเจน โดยใจความสำคัญควรอยู่บนสุด และใช้ตัวอักษรที่อ่านง่าย เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณเข้าใจส่วนประกอบหน้าเว็บเพจนี้ วิธีสร้างเว็บให้น่าสนใจก็จะง่ายขึ้น ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บเบราว์เซอร์ที่แสดงผลเว็บเพจได้ที่นี่

3. ส่วนท้ายของหน้า (Page Footer)

ส่วนท้ายเว็บเพจอยู่บริเวณด้านล่างสุด แม้จะไม่จำเป็นต้องมีในทุกเว็บไซต์ แต่ก็มีประโยชน์อย่างมากในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนประกอบของ Web Pageนี้มักประกอบด้วย:

  • ข้อมูลติดต่อ – ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
  • ลิงก์เครือข่ายสังคมออนไลน์ – เชื่อมต่อไปยังช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
  • แผนที่เว็บไซต์ – แสดงโครงสร้างของเว็บเพจทั้งหมด
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว – ข้อมูลการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
  • ลิขสิทธิ์ – ข้อความแสดงลิขสิทธิ์ของเว็บไซต์
  • ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง – เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจอื่น ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์

ส่วนท้ายที่ออกแบบอย่างดีช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม การใส่ใจในส่วนประกอบของเว็บไซต์ส่วนนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของเว็บไซต์คุณ ดูตัวอย่างของการออกแบบส่วนท้ายที่มีประสิทธิภาพได้จากบริการของ RED CODE

รูปแบบของเว็บไซต์

การเข้าใจรูปแบบของเว็บไซต์ช่วยให้คุณสามารถเลือกโครงสร้างของเว็บเพจที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ เว็บไซต์แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก:

1. เว็บไซต์แบบคงที่ (Static Website)

เว็บไซต์แบบคงที่เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นด้วยภาษา HTML พื้นฐาน มีลักษณะสำคัญดังนี้:

  • มีขนาดเล็ก จำนวนหน้าเว็บเพจไม่มาก
  • เนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย
  • การแก้ไขต้องทำที่ไฟล์ HTML โดยตรง
  • เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการอัปเดตข้อมูลบ่อย
  • ตัวอย่าง: เว็บไซต์องค์กร เว็บไซต์แนะนำธุรกิจ

เมื่อเริ่มวิธีสร้างเว็บแบบคงที่ คุณจะพบว่าการจัดการส่วนประกอบของเว็บเพจค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่การแก้ไขในภายหลังอาจต้องใช้ความรู้ด้านโค้ด เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำจำกัดความของเว็บเพจได้ที่นี่

2. เว็บไซต์แบบไดนามิก (Dynamic Website)

เว็บไซต์แบบไดนามิกมีการเปลี่ยนแปลงและอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ มีลักษณะสำคัญดังนี้:

  • มีปริมาณข้อมูลมาก
  • มีระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ทำให้แก้ไขข้อมูลได้ง่าย
  • รองรับการโต้ตอบกับผู้ใช้
  • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการอัปเดตหน้าเว็บไซต์บ่อย
  • ตัวอย่าง: เว็บข่าว บล็อก ร้านค้าออนไลน์ เว็บแอปพลิเคชัน

การเลือกวิธีสร้างเว็บแบบไดนามิกจะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนส่วนประกอบหน้าเว็บเพจได้ง่ายกว่า และเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

โครงสร้างของเว็บเพจ

การวางโครงสร้างของเว็บเพจที่ดีช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โครงสร้างของเว็บเพจแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบหลัก:

1. โครงสร้างแบบเรียงลำดับ (Sequential Structure)

โครงสร้างของเว็บเพจแบบนี้จัดเรียงเนื้อหาเป็นลำดับต่อเนื่องกัน เหมือนกับการอ่านหนังสือที่ต้องอ่านทีละหน้า:

  • เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
  • ผู้ใช้ต้องเข้าถึงเนื้อหาในลักษณะเส้นตรง (ก่อน-หลัง)
  • มีปุ่ม “เดินหน้า” และ “ถอยหลัง” เป็นหลัก
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่มีเนื้อหาไม่ซับซ้อน

นี่เป็นรูปแบบพื้นฐานที่สุดของส่วนประกอบของเว็บไซต์และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นวิธีสร้างเว็บ

2. โครงสร้างแบบลำดับขั้น (Hierarchical Structure)

โครงสร้างของเว็บเพจแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด จัดเนื้อหาเป็นลำดับขั้นจากบนลงล่าง:

  • คล้ายกับแผนภูมิองค์กร
  • มีการแบ่งเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ
  • เริ่มจากหน้าเว็บไซต์หลักแล้วแตกแขนงไปสู่หน้าเว็บเพจย่อยต่าง ๆ
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลมากและซับซ้อน

เมื่อคุณต้องการจัดส่วนประกอบของ Web Pageที่มีข้อมูลจำนวนมาก โครงสร้างแบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ

3. โครงสร้างแบบตาราง (Grid Structure)

โครงสร้างของเว็บเพจแบบนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเข้าถึงเนื้อหา:

  • มีการเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาแต่ละส่วน
  • ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายเส้นทาง
  • ใช้ในเว็บไซต์สมัยใหม่เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระมากขึ้น

โครงสร้างนี้เป็นการพัฒนาวิธีสร้างเว็บที่ซับซ้อนขึ้น แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างมาก

4. โครงสร้างแบบใยแมงมุม (Web Structure)

โครงสร้างของเว็บเพจแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูงสุด:

  • ทุกหน้าเว็บเพจสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ทั้งหมด
  • ผู้ใช้มีอิสระในการเข้าถึงเนื้อหาตามต้องการ
  • สามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอกได้
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

นี่เป็นโครงสร้างของเว็บเพจที่ซับซ้อนที่สุด แต่ให้อิสระแก่ผู้ใช้มากที่สุดในการสำรวจส่วนประกอบของเว็บไซต์ทั้งหมด

การออกแบบเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ

การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีไม่เพียงแต่ต้องสวยงามแต่ยังต้องใช้งานง่ายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อออกแบบส่วนประกอบของเว็บเพจมีดังนี้:

  1. ความเรียบง่าย – ออกแบบหน้าเว็บเพจให้เรียบง่าย เข้าใจง่าย ไม่รกรุงรัง เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตา
  2. ความเป็นเอกลักษณ์ – สร้างเอกลักษณ์ให้กับหน้าเว็บไซต์ด้วยโลโก้ สี ฟอนต์ ที่สะท้อนภาพลักษณ์ขององค์กร
  3. เมนูที่ใช้งานง่าย – จัดวางเมนูในตำแหน่งที่หาง่าย ช่วยให้ผู้ใช้นำทางไปยังส่วนประกอบหน้าเว็บเพจต่าง ๆ ได้สะดวก
  4. คุณภาพของเนื้อหา – นำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์
  5. การอัปเดตอยู่เสมอ – ปรับปรุงข้อมูลในเว็บเพจให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  6. การตอบสนองบนทุกอุปกรณ์ (Responsive) – ออกแบบให้หน้าเว็บไซต์รองรับการใช้งานบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือ
  7. การเรียกให้ดำเนินการ (Call to Action) – มีปุ่มหรือลิงก์ที่ชัดเจนเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการตามที่ต้องการ เช่น ซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ติดต่อ

การเข้าใจหลักการเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาวิธีสร้างเว็บที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

บริการพัฒนาเว็บเพจที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการจาก RED CODE

ที่ RED CODE เราให้บริการพัฒนาเว็บเพจที่ครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจคุณ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ:

1. ออกแบบโครงสร้างเว็บเพจที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้

เรามุ่งเน้นการออกแบบโครงสร้างของเว็บเพจที่เข้าถึงง่าย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างแบบลำดับขั้น แบบตาราง หรือแบบใยแมงมุม เราเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจและเป้าหมายของคุณ

2. พัฒนาเว็บเพจที่สวยงาม ดึงดูดสายตา

ทีมออกแบบ UX/UI ของเรามีความเชี่ยวชาญในการสร้างหน้าเว็บเพจที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง ด้วยการเลือกใช้สี ฟอนต์ และองค์ประกอบกราฟิกที่เหมาะสม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้

3. ปรับแต่ง SEO ให้เว็บเพจติดอันดับบน Google

เราใส่ใจในทุกรายละเอียดของการทำ SEO เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ของคุณติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ตั้งแต่การวิจัยคีย์เวิร์ด การปรับแต่งเนื้อหา ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างของเว็บเพจให้เป็นมิตรกับ SEO

4. สร้างเว็บเพจที่รองรับทุกอุปกรณ์ (Responsive)

ในยุคที่ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์จากหลากหลายอุปกรณ์ เราออกแบบส่วนประกอบหน้าเว็บเพจที่แสดงผลได้อย่างสมบูรณ์บนทุกขนาดหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟน

5. ดูแลรักษาและอัปเดตเว็บเพจอย่างต่อเนื่อง

นอกจากการพัฒนาเว็บเพจแล้ว เรายังให้บริการดูแลรักษาและอัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ของคุณทันสมัย น่าเชื่อถือ และรักษาอันดับบนเครื่องมือค้นหาได้อย่างยั่งยืน

สรุป

การเข้าใจส่วนประกอบของเว็บเพจเป็นกุญแจสำคัญสู่การสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหัว เนื้อหา หรือส่วนท้าย ทุกองค์ประกอบล้วนมีบทบาทสำคัญต่อประสบการณ์ผู้ใช้ การเลือกโครงสร้างของเว็บเพจที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวก เพิ่มโอกาสแปลงผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้า ติดต่อ RED CODE วันนี้ เพื่อพัฒนาหน้าเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณ!

คำถามที่พบบ่อย

เว็บเพจและเว็บไซต์ต่างกันอย่างไร?

เว็บเพจ คือ หน้าเว็บเพียงหน้าเดียว เปรียบเสมือนหน้ากระดาษในหนังสือ ส่วนเว็บไซต์คือการรวมเว็บเพจหลาย ๆ หน้าเข้าด้วยกันภายใต้โดเมนเดียวกัน เหมือนหนังสือทั้งเล่มที่มีหลายหน้า

ส่วนประกอบหลักของเว็บเพจมีอะไรบ้าง?

ส่วนประกอบหลักของเว็บเพจมี 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว (Header) ที่มีโลโก้และเมนูหลัก, ส่วนเนื้อหา (Body) ที่แสดงข้อมูลสำคัญ และส่วนท้าย (Footer) ที่มีข้อมูลติดต่อและลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

โครงสร้างของเว็บเพจแบบใดที่นิยมใช้มากที่สุด?

โครงสร้างแบบลำดับขั้น (Hierarchical Structure) เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะจัดหมวดหมู่ข้อมูลได้เป็นระบบ เริ่มจากหน้าหลักแล้วแตกแขนงไปสู่หน้าย่อยต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและเข้าใจง่าย

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.