แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: ทางเลือกใหม่ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด

การพัฒนาแอปพลิเคชันในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! ด้วยแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดที่เข้ามาปฏิวัติวงการ ทำให้การสร้างแอปฯ ที่เคยต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดขั้นสูง กลายเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอย่างเหลือเชื่อ มาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Low-Code Development ที่กำลังเปลี่ยนโลกแห่งการพัฒนาซอฟต์แวร์ไปตลอดกาล

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดคืออะไร? ทำไมถึงมาแรง

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด (Low-Code Applications) คือ แอปพลิเคชันที่พัฒนาผ่านแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Low-Code Development ที่ช่วยให้ทีมสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้โดยใช้การเขียนโค้ดน้อยที่สุด แทนที่จะต้องนั่งเขียนโค้ดเป็นพันบรรทัด ผู้ใช้สามารถสร้างแอปฯ ด้วยเครื่องมือที่เป็นกราฟิก มีการลากและวางองค์ประกอบต่าง ๆ ใช้บล็อกโค้ดสำเร็จรูป และใช้ส่วนประกอบที่เตรียมไว้ให้

แพลตฟอร์ม Low-Code Development มักมีสภาพแวดล้อมการพัฒนาแบบมองเห็นได้ (Visual Development Environment) ที่ใช้งานง่าย ทำให้แม้แต่คนที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ดก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดได้ ไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนโค้ดและทดสอบที่ซับซ้อน

จุดเด่นของแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดอยู่ที่การผสมผสานระหว่างความง่ายในการใช้งานกับความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ผู้ใช้ยังคงสามารถเขียนโค้ดเพิ่มเติมได้หากต้องการฟีเจอร์ที่ซับซ้อนขึ้น แตกต่างจาก “โน-โค้ด” (No-code) ที่ไม่ต้องเขียนโค้ดเลย แต่มักมีข้อจำกัดมากกว่าในแง่ของความยืดหยุ่น

ความแตกต่างระหว่าง Low-Code และ No-Code

แม้ว่าทั้ง Low-Code Development และ No-Code จะช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันง่ายขึ้น แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ:

No-code Development Platforms:

  • เน้นความง่ายสุด ๆ ไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรม
  • ใช้ระบบลากและวางเป็นหลัก
  • มีข้อจำกัดในการปรับแต่งมากกว่า

Low-Code Development Platforms:

  • ต้องใช้ทักษะการเขียนโค้ดบ้างแต่น้อยมาก
  • มีความยืดหยุ่นมากกว่า สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมเล็กน้อย
  • รองรับการพัฒนา Low-Code Applications ที่ซับซ้อนได้ดีกว่า

6 ข้อดีของแพลตฟอร์มโลว์โค้ดที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

การนำ Low-Code Development มาใช้ในองค์กรมีข้อดีมากมายที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน ต่อไปนี้คือประโยชน์หลักที่คุณจะได้รับจากแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด:

  1. พัฒนาเร็ว ปรับตัวไว – ช่วยให้ธุรกิจสร้างนวัตกรรมได้รวดเร็วกว่าเดิม ลดรอบระยะเวลาการพัฒนาจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์หรือวัน
  2. ความคล่องตัวสูงขึ้น – ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว มอบหมายงานพัฒนาให้กับผู้ใช้ทางธุรกิจได้ ไม่ต้องรอคิวจากทีมไอที
  3. ประสบการณ์ที่หลากหลาย – ช่วยสร้าง Low-Code Applications ที่รองรับหลายช่องทาง (multi-channel) ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้จากทุกอุปกรณ์อย่างไร้รอยต่อ
  4. ประหยัดค่าใช้จ่าย – ลดต้นทุนการพัฒนา ทีมไอทีสามารถโฟกัสกับงานที่มีมูลค่าสูงกว่า ขณะที่ผู้ใช้ทางธุรกิจสามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดง่าย ๆ ได้เอง
  5. ความปลอดภัยดีขึ้น – แพลตฟอร์ม Low-Code มีคุณสมบัติความปลอดภัยในตัว ช่วยปกป้องแอปและข้อมูลจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
  6. ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น – ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมต่าง ๆ ในองค์กร ทีมธุรกิจและทีมไอทีสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แอปพลิเคชันแบบไหนที่สร้างได้ด้วย Low-Code Development?

แพลตฟอร์มโลว์โค้ดมีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำไปใช้สร้าง Low-Code Applications ได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่แอปพื้นฐานไปจนถึงระบบที่ซับซ้อน นี่คือตัวอย่างของแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดที่สามารถพัฒนาได้:

แอปพลิเคชันเพื่อประสบการณ์ของลูกค้า – แอปที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวก เช่น แอปสั่งอาหาร แอปจองห้องพัก หรือแอปซื้อสินค้า

แอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจ – ระบบภายในองค์กร เช่น ซอฟต์แวร์ด้านเงินเดือน ระบบจัดซื้อจัดหา ระบบการเตรียมความพร้อมพนักงาน

แอปพลิเคชันสำหรับกระบวนการทำงานอัตโนมัติ – ระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานประจำวัน เช่น การป้อนข้อมูล การอนุมัติเอกสาร หรือการทำงานตามกฎที่กำหนด

แอปพลิเคชันการวิเคราะห์ข้อมูล – แดชบอร์ดสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ การติดตามประสิทธิภาพ หรือการรายงานผลต่าง ๆ

แอปพลิเคชันที่ใช้ AI – ระบบวิเคราะห์ความคิดเห็น ซอฟต์แวร์ตรวจจับวัตถุ หรือระบบคาดการณ์ยอดขาย

10 เครื่องมือ Low-Code Development ยอดนิยมที่ควรรู้จักในปี 2025

ในตลาดมีแพลตฟอร์ม Low-Code มากมายให้เลือกใช้ แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันในการสร้างแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด นี่คือ 10 เครื่องมือยอดนิยมที่น่าจับตามองในปี 2025:

  1. Microsoft Power Apps – เครื่องมือที่มีความสามารถสูง รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Microsoft อื่น ๆ ได้ดี เหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Microsoft
  2. Bubble – แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดสำหรับเว็บแบบไดนามิก
  3. Adalo – เน้นการพัฒนาแอปมือถือโดยเฉพาะ มีเทมเพลตสวยงามและใช้งานง่าย
  4. OutSystems – แพลตฟอร์มระดับองค์กรที่มีความสามารถสูง เหมาะสำหรับการพัฒนา Low-Code Applications ที่ซับซ้อน
  5. Zoho Creator – แพลตฟอร์มที่เน้นการใช้งานทางธุรกิจ มีเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงานที่แข็งแกร่ง
  6. Appgyver – รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดสำหรับหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง iOS, Android และเว็บ
  7. Betty Blocks – ใช้วิธีการพัฒนาแบบบล็อก ง่ายต่อการเรียนรู้และการทำงานร่วมกันในการสร้างแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด
  8. Webflow – เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่มีการออกแบบที่ซับซ้อนและสวยงาม
  9. Airtable – ผสมผสานระหว่างฐานข้อมูลและเครื่องมือการจัดการ สามารถสร้าง Low-Code Applications ได้หลากหลาย
  10. Zapier – เครื่องมือสำหรับการเชื่อมต่อและทำงานอัตโนมัติระหว่างแอปต่าง ๆ ที่คุณใช้งานอยู่

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดกับการพัฒนาแบบดั้งเดิม: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

การตัดสินใจว่าควรใช้ Low-Code Development หรือการพัฒนาแบบดั้งเดิมขึ้นอยู่กับความต้องการและบริบทของแต่ละองค์กร ลองมาดูการเปรียบเทียบในประเด็นสำคัญต่าง ๆ:

ใครเป็นผู้พัฒนา

  • แบบดั้งเดิม: ต้องใช้นักพัฒนาที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น JavaScript, Python, Swift หรือ Java
  • แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: ใครก็ตามที่มีความเข้าใจในกระบวนการทางธุรกิจสามารถพัฒนาได้ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ดสูง

ค่าใช้จ่าย

  • แบบดั้งเดิม: ต้นทุนสูงทั้งในแง่ของบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และการบำรุงรักษา
  • แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: ประหยัดกว่ามาก มักคิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนผู้ใช้งาน ไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากนัก

ความเร็วในการพัฒนา

  • แบบดั้งเดิม: ใช้เวลาเป็นเดือนหรือปี ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย
  • แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: เร็วกว่า 10 เท่า พัฒนาและปรับใช้งานได้ในเวลาเพียงไม่กี่วันหรือสัปดาห์

การรองรับหลายแพลตฟอร์ม

  • แบบดั้งเดิม: ต้องพัฒนาแยกกันสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น iOS, Android, เว็บ
  • แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: พัฒนาครั้งเดียว ใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม

ความปลอดภัย

  • แบบดั้งเดิม: ต้องพัฒนาและตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยเอง ซึ่งยุ่งยากและเสี่ยงต่อข้อผิดพลาด
  • แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: มีระบบรักษาความปลอดภัยในตัว มีการอัปเดตอัตโนมัติเพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่ ๆ

การบำรุงรักษา

  • แบบดั้งเดิม: ต้องมีทีมบำรุงรักษาโค้ดและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง
  • แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด: ง่ายกว่ามาก ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มจะดูแลการอัปเดตและการบำรุงรักษาให้

บริการแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดกับ RED CODE: พลิกโฉมธุรกิจคุณด้วยแอปที่ใช้งานได้จริง

RED CODE เข้าใจดีว่าธุรกิจยุคใหม่ต้องการความรวดเร็วและความยืดหยุ่นในการพัฒนาแอปพลิเคชัน เราจึงนำเสนอบริการที่หลากหลายที่ครบวงจร เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณก้าวล้ำคู่แข่ง นี่คือบริการที่เรามีให้:

ออกแบบและพัฒนาแอปแบบเร่งด่วน

เราช่วยคุณออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแอปภายในองค์กรหรือแอปสำหรับลูกค้า ด้วย Low-Code Development เราสามารถส่งมอบงานได้เร็วกว่าการพัฒนาแบบดั้งเดิมถึง 10 เท่า

โซลูชันสำหรับธุรกิจ SMEs

RED CODE มุ่งมั่นที่จะนำระบบและเทคโนโลยีระดับองค์กรมาพัฒนาแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดให้กับธุรกิจ SMEs ไทย เราเข้าใจข้อจำกัดด้านงบประมาณและทรัพยากร จึงมอบโซลูชันที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

บริการบูรณาการระบบ (System Integration)

เชื่อมโยงระบบและแอปพลิเคชันต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและความถูกต้องของข้อมูลทั่วทั้งองค์กร ด้วย Low-Code Development การบูรณาการระบบไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

บริการปรับแต่งและขยายระบบเดิม

มีระบบอยู่แล้วแต่ต้องการปรับปรุง? เราช่วยคุณปรับแต่งและขยายความสามารถของระบบเดิมด้วยแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด ทำให้ระบบของคุณทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ได้

ฝึกอบรมและให้คำปรึกษาด้าน Low-Code

เราไม่เพียงแต่พัฒนาระบบให้คุณ แต่ยังช่วยให้ทีมของคุณเรียนรู้และใช้งานแพลตฟอร์ม Low-Code Development ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดและปรับปรุงระบบได้ด้วยตัวเองในอนาคต

ทดสอบคุณภาพแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด (QA Testing)

บริการทดสอบซอฟต์แวร์แบบครบวงจร ทั้งการทดสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญและระบบอัตโนมัติ ครอบคลุมการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดของคุณทำงานได้อย่างถูกต้อง มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุป

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์ ด้วยการลดเวลาพัฒนา ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ RED CODE พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

คำถามที่พบบ่อย

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดเหมาะกับธุรกิจขนาดไหน?

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดเหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ SMEs ที่มีทรัพยากรจำกัด ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความรวดเร็วในการพัฒนาระบบ เพราะช่วยลดต้นทุน ประหยัดเวลา และไม่จำเป็นต้องมีทีมนักพัฒนาจำนวนมาก

จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมาก่อนหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมากนัก แพลตฟอร์มโลว์โค้ดถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้ที่มีความรู้พื้นฐานหรือไม่มีเลยก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ ผ่านระบบการลากและวาง บล็อกโค้ดสำเร็จรูป และเทมเพลตที่มีให้

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยหรือไม่?

แอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ดมีระบบรักษาความปลอดภัยในตัวที่แข็งแกร่ง และได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอเพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่ ๆ ทำให้มีความปลอดภัยไม่น้อยไปกว่าแอปพลิเคชันที่พัฒนาด้วยวิธีดั้งเดิม ในบางกรณีอาจปลอดภัยกว่าเพราะลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดของมนุษย์

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.