HTTPS คืออะไร? เข้าใจระบบความปลอดภัยสำหรับเว็บไซต์ที่คุณควรรู้

HTTPS

ทุกวันนี้เมื่อเราเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นคำว่า “https://” นำหน้า URL ของเว็บไซต์ พร้อมกับไอคอนรูปกุญแจเล็ก ๆ ในแถบที่อยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเว็บไซต์นั้นมีความปลอดภัย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า HTTPS คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจออนไลน์และผู้ใช้งานทั่วไป? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ HTTPS และ SSL ที่เป็นระบบความปลอดภัยสำคัญของการท่องเว็บในยุคปัจจุบัน

HTTPS คืออะไร? และทำงานอย่างไร?

HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure) คืออะไร? ง่าย ๆ คือ รูปแบบการสื่อสารที่ปลอดภัยของ HTTP โดยเพิ่มระบบเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เพื่อปกป้องการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และเว็บเซิร์ฟเวอร์ เมื่อเราพูดถึง web HTTPS เราหมายถึงเว็บไซต์ที่มีการใช้โปรโตคอลความปลอดภัยนี้นั่นเอง

เมื่อคุณเข้าเว็บไซต์ที่มี HTTPS คุณจะสังเกตเห็น URL HTTPS ที่มีคำว่า “https://” นำหน้า และมีไอคอนรูปกุญแจในแถบที่อยู่ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีบ่งบอกว่าข้อมูลทุกอย่างที่คุณส่งไปยังเว็บไซต์นั้น (เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต) จะได้รับการเข้ารหัสและปกป้องจากผู้ไม่หวังดี

SSL HTTPS คือระบบที่ทำงานโดยใช้โปรโตคอลความปลอดภัย SSL/TLS (Secure Sockets Layer/Transport Layer Security) ที่เข้ารหัสข้อมูลด้วยระบบกุญแจสองชุด:

  • กุญแจส่วนตัว (Private Key): เก็บไว้อย่างปลอดภัยบนเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์
  • กุญแจสาธารณะ (Public Key): แจกจ่ายให้กับทุกคนที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์

ระบบนี้ทำให้ข้อมูลที่ส่งระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์ถูกเข้ารหัสในรูปแบบที่ผู้ดักจับข้อมูลไม่สามารถอ่านได้ แม้จะดักจับข้อมูลได้ก็ตาม ตัวอย่างเช่น:

ข้อมูลปกติ: “รหัสผ่านของฉันคือ 12345678”
ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส: “Kj7Hb2VnLp9TyiExfGt3lWvErQnBfFklYgkD9p5zxZbKaPzL”

การทดสอบระบบความปลอดภัยเช่น HTTPS มีความสำคัญมาก ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ

HTTP vs HTTPS: ต่างกันอย่างไร?

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น มาดูความแตกต่างหลักระหว่าง HTTP และ HTTPS กัน เมื่อเราเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ:

HTTP (Hypertext Transfer Protocol)

  • ส่งข้อมูลแบบข้อความธรรมดา (Clear Text) โดยไม่มีการเข้ารหัส
  • ข้อมูลสามารถถูกดักจับและอ่านได้ง่าย
  • ใช้พอร์ตเริ่มต้น 80
  • เบราว์เซอร์จะแสดงคำเตือน “ไม่ปลอดภัย” (Not Secure)
  • เหมาะกับเว็บไซต์ที่ไม่มีการเก็บข้อมูลสำคัญของผู้ใช้

HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure)

  • เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดด้วยระบบ SSL/TLS
  • ข้อมูลถูกปกป้อง แม้จะถูกดักจับก็ไม่สามารถอ่านได้
  • ใช้พอร์ตเริ่มต้น 443
  • เบราว์เซอร์แสดงไอคอนรูปกุญแจ บ่งบอกถึงความปลอดภัย
  • จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ที่มีการรับ-ส่งข้อมูลสำคัญ เช่น เว็บ E-Commerce, เว็บธนาคาร

เมื่อเราพูดถึง WWW คืออะไร ก็คือส่วนหนึ่งของ URL ที่ย่อมาจาก World Wide Web ซึ่งมักปรากฏเป็น “www.” นำหน้าชื่อโดเมน โดยที่ทั้ง HTTP และ HTTPS สามารถใช้กับเว็บไซต์ที่มี www. หรือไม่มีก็ได้ เช่น https://www.example.com หรือ https://example.com ซึ่งทั้งสองแบบสามารถเป็น web HTTPS ที่ปลอดภัยได้เหมือนกัน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยเว็บไซต์ คุณสามารถศึกษาได้จากมาตรฐาน HTTPS ในระดับสากล

ทำไมเว็บไซต์ธุรกิจต้องมี HTTPS?

การติดตั้ง HTTPS ให้กับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณนั้นมีประโยชน์มากมาย เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่มีระบบความปลอดภัยนี้ พวกเขาจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ดังนี้:

  1. เพิ่มความปลอดภัยให้ข้อมูลลูกค้า
    SSL HTTPS ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของลูกค้า เช่น ข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน และข้อมูลการชำระเงิน จากการถูกดักจับโดยผู้ไม่หวังดี ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมข้อมูลได้อย่างมาก
  2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
    เว็บไซต์ที่มีไอคอนรูปกุญแจและ URL HTTPS สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ทำให้พวกเขากล้าที่จะทำธุรกรรม กรอกข้อมูล หรือซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของคุณ
  3. ปรับปรุงอันดับใน Google (SEO)
    Google ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้ โดยใช้ HTTPS เป็นหนึ่งในปัจจัยจัดอันดับเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มี HTTPS จะได้รับการจัดอันดับดีกว่าเว็บไซต์ HTTP ที่มีคุณภาพเทียบเท่า
  4. ป้องกันการแทรกแซงเนื้อหา
    HTTPS ช่วยป้องกันการแทรกแซงเนื้อหาโดยบุคคลที่สาม เช่น การแทรกโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือโค้ดที่เป็นอันตรายเมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ของคุณ
  5. หลีกเลี่ยงคำเตือน “ไม่ปลอดภัย” ในเบราว์เซอร์
    เบราว์เซอร์ต่าง ๆ จะแสดงคำเตือน “ไม่ปลอดภัย” สำหรับเว็บไซต์ HTTP ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่มั่นใจและออกจากเว็บไซต์ไป

HTTPS ส่งผลต่อการทำ SEO อย่างไร?

Google ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้อย่างมาก และได้ประกาศว่า HTTPS เป็นหนึ่งในปัจจัยจัดอันดับเว็บไซต์มาตั้งแต่ปี 2014 นี่คือวิธีที่ web HTTPS ช่วยปรับปรุง SEO ของคุณ:

  1. เพิ่มคะแนนในการจัดอันดับ
    แม้ว่า HTTPS คืออะไรที่เป็นเพียงปัจจัยเล็ก ๆ ในการจัดอันดับ แต่ในกรณีที่เว็บไซต์สองแห่งมีคุณภาพเท่ากัน เว็บไซต์ที่มี HTTPS จะได้รับการจัดอันดับสูงกว่า
  2. ปรับปรุงการอ้างอิงจากแหล่งที่มา (Referrer Data)
    เมื่อผู้ใช้คลิกจากเว็บไซต์ HTTPS ไปยังเว็บไซต์ HTTP ข้อมูลแหล่งที่มาจะหายไป แต่ถ้าเว็บไซต์ของคุณใช้ HTTPS คุณจะได้รับข้อมูลการอ้างอิงแบบครบถ้วน
  3. เพิ่มความน่าเชื่อถือและลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate)
    ผู้ใช้มักจะออกจากเว็บไซต์ทันทีเมื่อเห็นคำเตือน “ไม่ปลอดภัย” ซึ่งส่งผลเสียต่ออัตราการตีกลับ เมื่อคุณใช้ URL HTTPS ผู้ใช้จะรู้สึกปลอดภัยและอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น
  4. ส่งผลดีต่อการเก็บข้อมูลวิเคราะห์
    เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS สามารถเก็บข้อมูลการวิเคราะห์ได้แม่นยำกว่า โดยเฉพาะข้อมูลการอ้างอิงจากแหล่งที่มาต่าง ๆ ทำให้เข้าใจพฤติกรรมการเข้าเว็บไซต์ของผู้ใช้ได้ดีขึ้น

วิธีการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ใช้ HTTPS หรือไม่

เมื่อเราเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เราสามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ด้วยตัวเองด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้:

  1. สังเกตที่แถบที่อยู่ (URL Bar)
    เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS จะขึ้นต้นด้วย “https://” และมีไอคอนรูปกุญแจ ส่วนเว็บไซต์ HTTP จะขึ้นต้นด้วย “http://” และอาจมีคำเตือน “ไม่ปลอดภัย” SSL HTTPS คือสิ่งที่จะแสดงสัญลักษณ์ความปลอดภัยนี้
  2. คลิกที่ไอคอนกุญแจ
    คลิกที่ไอคอนกุญแจใน URL Bar เพื่อดูรายละเอียดใบรับรอง SSL ซึ่งจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ออกใบรับรองและวันหมดอายุ
  3. ใช้เครื่องมือออนไลน์
    มีเครื่องมือออนไลน์มากมาย เช่น SSL Checker ที่ช่วยตรวจสอบว่า web HTTPS ทำงานถูกต้องหรือไม่ และใบรับรอง SSL ถูกต้องหรือไม่
  4. สังเกตคำเตือนของเบราว์เซอร์
    เบราว์เซอร์สมัยใหม่มักจะแสดงคำเตือนอย่างชัดเจนหากเว็บไซต์ไม่ปลอดภัย หรือมีปัญหากับใบรับรอง HTTPS ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ได้ทันทีว่าเว็บไซต์นั้นปลอดภัยหรือไม่

การนำ HTTPS มาใช้งานกับเว็บไซต์

การติดตั้ง HTTPS ให้กับเว็บไซต์ของคุณนั้น ทำได้โดยการขอรับใบรับรอง SSL/TLS จากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ URL HTTPS ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ มีขั้นตอนพื้นฐานดังนี้:

  1. เลือกประเภทใบรับรอง SSL ที่เหมาะสม
    มีใบรับรองหลายประเภท เช่น:
    • ใบรับรองตรวจสอบโดเมน (DV) – ตรวจสอบเพียงการเป็นเจ้าของโดเมน
    • ใบรับรองตรวจสอบองค์กร (OV) – ตรวจสอบทั้งโดเมนและข้อมูลองค์กร
    • ใบรับรองตรวจสอบขั้นสูง (EV) – ตรวจสอบครอบคลุมที่สุด แสดงชื่อบริษัทในแถบที่อยู่
  2. ติดตั้งใบรับรอง SSL บนเซิร์ฟเวอร์
    หลังจากได้รับใบรับรอง คุณต้องติดตั้งบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ตามคำแนะนำของผู้ให้บริการโฮสติ้ง เพื่อให้เว็บไซต์สามารถรองรับการเข้าเว็บไซต์แบบปลอดภัยได้
  3. ตั้งค่าการเปลี่ยนเส้นทาง HTTP ไปยัง HTTPS
    เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ทั้งหมดที่เข้าเว็บไซต์ของคุณจะใช้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย คุณควรตั้งค่าการเปลี่ยนเส้นทาง 301 จาก HTTP ไปยัง HTTPS
  4. ปรับปรุงลิงก์ภายในเว็บไซต์
    ตรวจสอบและแก้ไขลิงก์ภายในทั้งหมดให้ใช้ HTTPS เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเนื้อหาผสม (Mixed Content) ซึ่งจะทำให้ความปลอดภัยของ web HTTPS ลดลง

การติดตั้ง HTTPS เป็นส่วนหนึ่งของบริการด้านไอทีที่ครอบคลุมซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัญหาและวิธีแก้ไขเมื่อติดตั้ง HTTPS

การติดตั้ง HTTPS อาจพบกับปัญหาบางอย่าง เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ของคุณ ปัญหาที่พบบ่อยมีดังนี้:

  1. ปัญหาเนื้อหาผสม (Mixed Content)
    เกิดขึ้นเมื่อหน้า HTTPS โหลดทรัพยากร (เช่น รูปภาพ, CSS, JavaScript) ผ่าน HTTP ทำให้เบราว์เซอร์แสดงคำเตือนหรือบล็อกเนื้อหา
    วิธีแก้ไข: ตรวจสอบและแก้ไข URL ของรูปภาพ สคริปต์ และสไตล์ชีทให้ใช้ HTTPS ทั้งหมด
  2. ข้อผิดพลาดของใบรับรอง
    ใบรับรองที่หมดอายุหรือไม่ถูกต้องจะทำให้เบราว์เซอร์แสดงคำเตือนที่น่ากลัวเมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์
    วิธีแก้ไข: ตั้งค่าการต่ออายุอัตโนมัติ และเลือกใช้ใบรับรองจากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ
  3. การโจมตีโดยการถอด SSL
    การโจมตีที่พยายามลดระดับการเชื่อมต่อ HTTPS ให้เป็น HTTP ทำให้ข้อมูลไม่ปลอดภัยเมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์
    วิธีแก้ไข: ใช้ HTTP Strict Transport Security (HSTS) เพื่อบังคับให้เบราว์เซอร์ใช้ HTTPS เท่านั้น
  4. ปัญหาประสิทธิภาพ
    บางครั้งเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS อาจโหลดช้ากว่าเล็กน้อยเนื่องจากขั้นตอนการเข้ารหัสเพิ่มเติม
    วิธีแก้ไข: ใช้เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ เช่น การบีบอัดข้อมูล การใช้ CDN และการตั้งค่าแคชอย่างเหมาะสม

บริการด้าน HTTPS และความปลอดภัยเว็บไซต์จาก RED CODE DEVELOPMENT

ที่ RED CODE DEVELOPMENT เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเว็บไซต์ธุรกิจของคุณ โดยเรามีบริการครบวงจรที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยและน่าเชื่อถือด้วย SSL HTTPS:

  1. ติดตั้งและกำหนดค่า SSL Certificate แบบมืออาชีพ
    ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยเลือกและติดตั้งใบรับรอง SSL ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ พร้อมกำหนดค่าให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้ผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ของคุณได้อย่างปลอดภัย
  2. ปรับเว็บไซต์เก่าให้รองรับ HTTPS อย่างสมบูรณ์
    เรามีประสบการณ์ในการปรับแต่งเว็บไซต์เก่าให้รองรับ HTTPS โดยไม่กระทบต่อการทำงานและอันดับ SEO เดิม ทำให้ web HTTPS ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่น
  3. พัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยสูง
    เราออกแบบและพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยสูง ด้วย URL HTTPS และมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ ตามมาตรฐานสากล
  4. บริการตรวจสอบความปลอดภัยเว็บไซต์ (Security Audit)
    ตรวจสอบและแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์ ไม่เพียงแค่ HTTPS แต่ครอบคลุมถึงการป้องกันการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ
  5. ดูแลและบำรุงรักษาระบบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
    เราไม่เพียงติดตั้ง HTTPS เท่านั้น แต่ยังคอยตรวจสอบและอัปเดตระบบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยตลอดเวลา
  6. บริการให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยเว็บไซต์
    ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานและการปรับแต่ง WWW คืออะไร HTTPS คืออะไร และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณ

ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงจากการทำงานกับบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ เราเข้าใจความสำคัญของความปลอดภัยข้อมูลและพร้อมให้บริการคุณด้วยราคาที่คุ้มค่า ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจ SME หรือองค์กรขนาดใหญ่

สรุป

ในยุคดิจิทัลที่ภัยคุกคามออนไลน์มีมากขึ้น HTTPS ไม่ใช่เพียงตัวเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับทุกเว็บไซต์ การใช้ HTTPS ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของลูกค้า สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และยังเพิ่มโอกาสในการติดอันดับที่ดีบน Google ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคงในโลกออนไลน์

หากคุณยังไม่ได้ใช้ HTTPS บนเว็บไซต์ ถึงเวลาแล้วที่จะยกระดับความปลอดภัย RED CODE DEVELOPMENT พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ปลอดภัยด้วย SSL HTTPS อย่างมืออาชีพเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ทั้งในด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการทำ SEO เราที่ RED CODE DEVELOPMENT พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ปลอดภัยด้วย HTTPS อย่างมืออาชีพ

คำถามที่พบบ่อย

HTTP Method คืออะไร?

HTTP Method คือชุดคำสั่งที่ใช้สื่อสารระหว่าง Client (เบราว์เซอร์) กับ Server (เซิร์ฟเวอร์) เพื่อบอกว่าต้องการทำอะไรกับข้อมูล เช่น GET (ขอดูข้อมูล), POST (ส่งข้อมูลใหม่), PUT (อัปเดตข้อมูล), DELETE (ลบข้อมูล) ทำหน้าที่เหมือนภาษาที่ใช้สื่อสารระหว่างหน้าบ้านและหลังบ้านของเว็บไซต์

เว็บไซต์กลุ่มใดที่นิยมใช้ https?

แม้ว่าในอดีต HTTPS จะนิยมใช้เฉพาะกับเว็บไซต์ที่มีการรับส่งข้อมูลสำคัญ เช่น ธนาคาร, เว็บช้อปปิ้ง หรือเว็บที่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว แต่ปัจจุบัน Google และเบราว์เซอร์ต่าง ๆ แนะนำให้เว็บไซต์ทุกประเภทใช้ HTTPS เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและประโยชน์ด้าน SEO

HTTP กับ HTTPS ต่างกันอย่างไร?

HTTP ส่งข้อมูลแบบธรรมดาไม่มีการเข้ารหัส เปรียบเหมือนส่งจดหมายที่ไม่ได้ใส่ซอง ใครก็สามารถเปิดอ่านได้ระหว่างทาง ส่วน HTTPS เพิ่มชั้นความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด เหมือนการส่งจดหมายในซองที่ปิดผนึกอย่างดี ทำให้แม้จะถูกดักจับ ผู้ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถอ่านข้อมูลได้# HTTPS คืออะไร? เข้าใจระบบความปลอดภัยสำหรับเว็บไซต์ที่คุณควรรู้

ทุกวันนี้เมื่อเราเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นคำว่า “https://” นำหน้า URL ของเว็บไซต์ พร้อมกับไอคอนรูปกุญแจเล็ก ๆ ในแถบที่อยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเว็บไซต์นั้นมีความปลอดภัย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า HTTPS คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจออนไลน์และผู้ใช้งานทั่วไป? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ HTTPS และ SSL ที่เป็นระบบความปลอดภัยสำคัญของการท่องเว็บในยุคปัจจุบัน

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.