ในยุคปัจจุบัน ธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จต้องปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ตโฟนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน หนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมคือการมี Mobile App เป็นของตัวเอง หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ยังไม่มีใครสร้าง Mobile Application ของตนเอง บทความนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจเบื้องต้นกับ Mobile Apps และบริการพัฒนา Mobile App ของ RED CODE ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
Mobile Application คืออะไร?
Mobile Application หรือ Mobile App คือ ซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต ซึ่ง Mobile Apps จะต้องมีการติดตั้งบนอุปกรณ์ก่อนจึงจะใช้งานได้ แอปพลิเคชันมือถือช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์ของตนได้อย่างสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล โดย Mobile Application ส่วนใหญ่จะถูกพัฒนาขึ้นบนระบบปฏิบัติการหลัก 2 แพลตฟอร์ม คือ iOS และ Android
ประโยชน์ของ Mobile Application
แอปพลิเคชัน มีอะไรบ้าง ที่มีประโยชน์สำหรับทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้งาน กล่าวคือ
สำหรับผู้ให้บริการ หรือแบรนด์ Mobile App จะช่วยในเรื่องต่อไปนี้
- เพิ่มช่องทางในการสื่อสารและการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย ลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์
- สร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์ ช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำ
- บริการลูกค้าสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น อำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าและบริการ ลดขั้นตอนทำงาน
ส่วนประโยชน์ที่ผู้ใช้งาน หรือลูกค้าจะได้รับจาก Application มีดังนี้
- เข้าถึงข้อมูลของสินค้า บริการ ช่องทางติดต่อ ได้ง่ายและรวดเร็ว
- ลดขั้นตอนและประหยัดเวลาในการทำธุรกรรม เช่น ชำระเงิน จองบริการ
- เลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปร้านค้า
- เปรียบเทียบราคา และตัวเลือกต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นแค่ปลายนิ้ว
Mobile Application มีกี่ประเภท
แอปพลิเคชัน มีอะไรบ้าง หากแบ่งตามลักษณะการให้บริการ สามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเภทหลัก ได้แก่
Shopping Apps
แอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์การช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทั้งฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อ ช่วยให้เลือกซื้อสินค้าได้ง่าย มีระบบติดตามสินค้า และมีโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้า
Loyalty Apps
Mobile Application ประเภทนี้มีระบบสะสมคะแนน ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิก สร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาว
Content Apps
Application แบบนี้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบคอนเทนต์ เช่น บทความ วิดีโอ รูปภาพ หรือข่าวสารต่าง ๆ
Interactive Apps
ออกแบบมาเพื่อการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ โดยส่วนมากแอปประเภทนี้จะมีองค์ประกอบของเกม หรือกิจกรรมที่ให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ด้วย สร้างความสนุกและประสบการณ์ที่ดี
Schedule and Reservation Apps
Mobile App ที่ช่วยให้การจองที่นั่ง จองคิว หรือบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สปา ตั๋วหนัง ฯลฯ ทำได้สะดวกรวดเร็ว ลดความยุ่งยาก
Customer Service Apps
แอปพลิเคชัน ที่มีประโยชน์นี้ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการบริการลูกค้า ช่วยตอบคำถาม ให้คำแนะนำเบื้องต้น รวมถึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อย และมีช่องทางติดต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
แอปพลิเคชัน เหมาะกับธุรกิจประเภทไหน
ธุรกิจในหลากหลายประเภท สามารถนำ Mobile Application มาเป็นเครื่องมือเพิ่มศักยภาพการให้บริการได้ โดยเฉพาะ 6 ธุรกิจนี้ ได้แก่
ธนาคาร
ทุกวันนี้เราเห็น Application ของแต่ละแบงก์ออกมาเพื่อให้ลูกค้าทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ได้เองเลย ไม่ว่าจะเป็น เช็กยอด โอนเงิน ชำระค่าสินค้าบริการ หรือแม้กระทั่งลงทุนซื้อหุ้น ลูกค้าสามารถทำได้ในแอปธนาคารที่พัฒนาให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน
ธุรกิจอาหาร หรือร้านอาหาร
Mobile App สำหรับธุรกิจร้านอาหาร จะช่วยให้ลูกค้าเลือกเมนู สั่งอาหาร หรือจองโต๊ะได้ล่วงหน้า ลดเวลารอเมื่อไปถึงร้าน ผู้ประกอบการก็ให้บริการได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ Mobile Application ยังช่วยปรับปรุงระบบการจัดการภายในได้อีกด้วย
ธุรกิจค้าปลีก
แอปพลิเคชัน คือ ช่องทางที่ช่วยให้ร้านค้าปลีกนำเสนอสินค้าและให้บริการในรูปแบบที่ทันสมัย ลูกค้าสามารถเลือกดู เปรียบเทียบ และสั่งซื้อสินค้าได้ง่าย ส่วนร้านค้าเองจะสื่อสารกับลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ธุรกิจท่องเที่ยว
แม้ว่าจะมี Mobile App สำหรับจองโรงแรม ที่พักอยู่แล้ว แต่การมีแอปเป็นของตัวเองจะช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวเสนอดีลหรือกิจกรรมพิเศษให้แก่ลูกค้า รวมถึงขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ด้วย
โรงแรม
Mobile Application สำหรับธุรกิจโรงแรม จะช่วยให้ลูกค้าเช็กห้องว่าง จองที่พัก เช็กอิน-เอาต์ แจ้งปัญหาได้หากเกิดขึ้น ผ่านแอปได้โดยตรง ทางโรงแรมก็จะแจ้งโปรโมชันพิเศษ และแสดงแผนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทางได้
โรงพยาบาล
การพัฒนา Mobile App ให้กับแวดวงสาธารณสุขเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ ที่ทุกคนจะมีแอปโรงพยาบาลไว้เพื่อทำนัด แจ้งเตือน ชำระค่ารักษา รับข้อมูลด้านสุขภาพ หรือแม้แต่ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้เลยด้วย
Mobile Application กับ Web Application แตกต่างกันอย่างไร?
แม้ว่า Mobile Application และ Web Application จะมีจุดประสงค์เพื่อให้บริการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายประเด็น
Mobile Application
- ต้องมีการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ก่อนใช้งาน
- พัฒนาบนระบบปฏิบัติการเฉพาะ เช่น iOS, Android
- เข้าถึงฟีเจอร์ของอุปกรณ์ได้ เช่น กล้อง GPS การแจ้งเตือน
- ใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต (บางฟังก์ชัน)
- ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่า แสดงผลได้ไวกว่า
Web Application
- ใช้งานได้ทันทีผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้ง
- รองรับได้ทุกระบบปฏิบัติการ แสดงผลได้ทุกอุปกรณ์
- การทำงานต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- อาจทำงานได้ช้ากว่า Mobile App เพราะต้องโหลดข้อมูลจากเว็บ
- ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์บางอย่างของอุปกรณ์ได้
จะเห็นได้ว่า Mobile Application มีข้อได้เปรียบในแง่ของการใช้งานที่สะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า ซึ่งจะช่วยเพิ่ม User Experience ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้นแม้ Web App จะพัฒนาได้ง่ายกว่า แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการใช้งาน Mobile Apps ได้อย่างเต็มที่
หากสนใจทำ Mobile App สามารถใช้บริการ RED CODE ได้แล้ววันนี้!
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการพัฒนา Mobile Application เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดและการบริการลูกค้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ขอแนะนำให้ใช้บริการของ RED CODE ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือที่พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนา ไปจนถึงการนำขึ้น App Store และ Google Play ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มากประสบการณ์ เราจะช่วยให้ Mobile App ของคุณโดดเด่นและตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด
สรุป
Mobile Application คือ ซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานบนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งนับเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญของธุรกิจยุคใหม่ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการพัฒนา Mobile App ที่มีคุณภาพ สามารถติดต่อใช้บริการของ RED CODE ซึ่งเรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวางจำหน่ายบน App Store ให้แก่คุณ เพื่อธุรกิจของคุณจะสามารถเติบโตได้ด้วยกลยุทธ์ดิจิทัลที่ตรงใจลูกค้า
คำถามที่พบบ่อย
Mobile Application มีอะไรบ้าง?
Mobile Application มี 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
- Native App – พัฒนาด้วย SDK ของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น iOS, Android
- Hybrid App – พัฒนาให้รันบนมือถือได้ทุกระบบ ด้วย framework กลาง
- Web App – พัฒนาเพื่อให้ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น
หากแบ่งตามลักษณะการใช้งาน สามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเภท ได้แก่ Shopping Apps, Loyalty Apps, Content Apps, Interactive Apps, Schedule & Reservation Apps และ Customer Service Apps
Mobile Application กับ Web Application แตกต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่าง Mobile App กับ Web App คือ
- Mobile App จำเป็นต้องดาวน์โหลดและติดตั้งบนอุปกรณ์ก่อนใช้งาน ส่วน Web App ใช้ได้เลยผ่าน Web Browser
- Mobile App พัฒนาบน OS เฉพาะ เช่น iOS, Android แต่ Web App รองรับได้ทุก OS
- Mobile App ใช้ได้แม้ไม่มีเน็ต แต่ Web App ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเข้าถึง
- Mobile App เข้าถึงฟีเจอร์ของอุปกรณ์ได้ เช่น กล้อง แต่ Web App ไม่สามารถ
- Mobile App มีประสิทธิภาพการทำงานที่ไวกว่า Web App
Mobile Application มีประโยชน์ในธุรกิจอย่างไร?
Mobile App มีประโยชน์กับธุรกิจในหลายด้าน เช่น
- เพิ่มช่องทางการสื่อสาร การให้ข้อมูล และการตลาด กับกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง
- สร้างการมีส่วนร่วมและความผูกพันจากลูกค้า ด้วยฟีเจอร์พิเศษ เกม โปรโมชัน
- บริการลูกค้าได้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนการทำงาน เช่น การจอง การสั่งซื้อ
- ได้ข้อมูล Customer Insight เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าบริการ
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ทันสมัย มีเอกลักษณ์ ช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำมากขึ้น
Mobile Application มีประโยชน์อย่างไร?
ประโยชน์ของ mobile application สำหรับธุรกิจ สรุปได้ดังนี้
- เพิ่มช่องทางการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และตลาด กับกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้แบรนด์
- กระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ เพิ่มยอดขาย จากโปรโมชัน หรือสิทธิพิเศษผ่าน Application
- ได้ Customer Data ที่เป็นประโยชน์ เช่น พฤติกรรม ความถี่ ความชอบ เพื่อนำมาวิเคราะห์
- บริการลูกค้าได้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ประหยัดเวลาและงบประมาณ
- สร้างความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ในระยะยาวได้
ส่วนประโยชน์ของ mobile application สำหรับผู้ใช้ คือ
- เข้าถึงสินค้า บริการ และข้อมูลของแบรนด์ได้ง่าย รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา
- ซื้อของ จองบริการ ชำระเงิน ได้สะดวกขึ้น ลดขั้นตอน ประหยัดเวลาจากการเดินทาง
- เชื่อมต่อและสื่อสารกับแบรนด์ได้โดยตรง ทั้งพูดคุย แจ้งปัญหา ได้รับความช่วยเหลือ
- ความบันเทิง ความสนุก จากเกม กิจกรรม หรือคอนเทนต์ที่น่าสนใจในแอป
- ได้ข้อเสนอพิเศษ โปรโมชัน ส่วนลด หรือสิทธิประโยชน์เฉพาะสำหรับสมาชิกในแอป




